วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เขียนให้ตนเอง

เราขอเขียนบทความต่อไปและกัน
ในชีวิตของตนเองมีความตั้งใจ เป้าหมายอยู่ไม่กี่อย่าง
1.ได้เรียนจบในสถาบันที่มีชื่อเสียง และคนยอมรับ(เป้าหมายข้อนี้ขอทำป.โทก็อยากเปลี่ยนทิศทางการเรียนอย่างกระทันหัน ไม่งั้นตอนนี้ก็คงเห็นตนเองนั่งเรียนเทคนิกการสัตว์แพทย์ที่ม.เกษตร คิดแล้วก็เสียดาย55)
2.ได้เงินเก็บก้อนโตจากการสะสมมานานหลายปี(จะอดใจตนเองไหวไหมนึกอยู่55+)
3.ขอหยุดทำงาน ใช้เงินก้อนที่ตั้งใจเก็บนั้นจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตหรือเสียสละเวลาของตนเองตอนบั้นปลายของชีวิตไปสอนหนังสือบนดอยและกันแบบไม่หวังตังค์55+(เรื่องทำบุญ/กิจกรรมแบบนี้ชอบนักหนา)
*ก็มีเท่านี้ที่อยากทำแต่เรื่องรายละเอียดปลีกย่อยค่อยแจงใหม่วันหลัง*

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552

"เศรษฐกิจพอเพียงในทัศนะโลก"


หนังสือ "เศรษฐกิจพอเพียงในทัศนะโลก"
ภาวะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันได้เข้าสู่ภาวะวิกฤตที่มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบศตวรรษ เริ่มต้นจากวิกฤตการณ์สถาบันการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ส่งผลเชื่อมโยงถึงระบบการเงินของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ความเสียหายต่อระบบการเงินอย่างรุนแรงได้ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศในยุโรป เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่เศรษฐกิจไทยก็ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ทำให้ต้องหันกลับมาพิจารณาทบทวนกันใหม่ทั้งในประเด็นการลงทุนใช้จ่ายเกินตัวของภาคประชาชน ที่ก่อให้เกิดหนี้สินที่ไม่สามารถชำระคืนได้ ประเด็นความละโมบของภาคธุรกิจที่ต้องการตัวเลขรายได้อย่างไม่พอประมาณและไม่สมเหตุสมผล ก่อให้เกิดการล่มสลายของกิจการ และประเด็นความหละหลวมในการกำกับดูแลของภาครัฐ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ภูมิคุ้มกันในระบบเศรษฐกิจอ่อนแอ เกิดความเสียหายที่มีมูลค่าจำนวนมากมายมหาศาลประเด็นที่กล่าวมาข้างต้น มีความเกี่ยวเนื่องกับหลักความพอประมาณ ความมีเหตุมีผล และการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ซึ่งก็ไม่พ้นที่จะต้องกล่าวถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกันอีกคราวหนึ่ง แต่ในครั้งนี้ จะเป็นการกล่าวถึงเศรษฐกิจพอเพียง จากปากของนักคิด นักวิชาการ และบุคคลที่มีชื่อเสียงชาวต่างประเทศ จำนวน 13 ท่าน ที่ได้แสดงทัศนะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่มีต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเทียบเคียงกับแนวคิดและมุมมองสากล นำมารวบรวมเป็นหนังสือ “เศรษฐกิจพอเพียงในทัศนะโลก” (Sufficiency Economy in Global View) นี้เนื้อหาที่ประมวลจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 13 ท่านนี้ เป็นผลพวงจากการดำเนินโครงการจัดทำแผนที่เดินทาง (Road Map) และการสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียงระหว่างประเทศ โดยสถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคม และสถาบันไทยพัฒน์ มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) นำมาเรียบเรียงเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จำนวนอย่างละ 12 ตอน

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

ทำไมสวรรค์ก็ไม่เข้าข้างเรา

ทำไมสวรรค์ก็ไม่เข้าข้างเรา

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

โทรม

การดูแลสุขภาพตนเองส่งผลดีต่อการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552

ภาพ

ภาพเพียงภาพเดียวสามารถบรรยายคำได้เป็นล้านคำ ล้านประโยค

วิชา CD

เมื่อวันเสาร์วิชาเรียน Cd5 เป็นวันที่ทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจมากๆ กับคำพูดของอาจารย์ทั้งสองท่าน ว่าclassวันนี้เป็นการส่งงานครั้งสุดท้ายของการเรียนการสอน มันทำให้ฉันเกิดข้อสงสัยมากมายในขั้นตอนการสอนของอาจารย์ ด้วยเหตุผลอะไร ฉันอยากได้ยินจากปากของอาจารย์ทั้ง 2 เองมากกว่า การคาดเดาจากความรู้สึกของตนเอง(Class เรียนเราล้มเหลวจริงๆหรือ?)

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

คนมากมายที่รู้จัก

หลายๆครั้งที่เมื่อออกไปภายนอกบ้านและจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างแม้ว่าเรากับคนนั้นๆจะไม่รู้จักกันมาก่อนก็เป็นเรื่องดีมากๆ เพราะหลายๆครั้งกับคนที่เรารู้จักแบบผิวเผินเพียงนิดเดียว แต่นั่นเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลกับงานในเครือข่ายการสื่อสาร ที่จำเป็นต้องรู้จักคนไว้ให้มาก เพราะอะไรๆมันจะง่ายขึ้นมากๆ

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

สติกเกอร์

เมื่อวานฉันไปเดินฝั่งตรงข้ามของเซ็นทรัลลาดพร้าว และไปเจอลุงขายของจิปาถะ และของที่ฉันรู้สึกสะดุดตามากสุดแล้ว ก็คือ สติ๊กเกอร์สำหรับตกแต่ง แม้ว่าลวดลายมันจะดูไม่จัดองค์ประกอบแต่ถ้าเราสามารถจัดการอะไรบางอย่างโดยการตัดและประกอบมันเสียใหม่มันน่าจะโอเคกว่า และแนก็มานั่งคิดว่าเราจะเสียเงินกับความยุ่งยากนี้ทำไม ลงมือทำด้วยตนเองมันออกมาดีกว่า ฉันก็พยายามหาเหตุผลกับตนเองว่ามันน่าจะมีเหตุผลในแง่ดีจากของที่ลุงขาย ปรากฎว่าสติเกอร์นี้มีลักษณะพิเศษคือ มันนูนตามรูปภาพได้ และบางภาพมีความแววาวจากกากเพชร(บางชิ้นดูโอเค) เทคนิคพวกนี้กับราคาของมันทำให้ฉันรู้สึกว่ามันน่าสนนะ
น่าเก็บมาทำอะไรบางอย่าง

วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552

ขยับแต่ไม่เคลื่อนไหว

เราจะสร้างสรรค์ประเด็นการออกแบบได้อย่างไร ให้สนใจและจับใจคนกับคำว่า "ขยับแต่ไม่เคลื่อนไหว" เราอาจพูดถึงความคิดหรือการกระทำมากมายที่ไร้ประโยชน์ต่อเป้าหมายที่วางไว้ หรืออาจพูดถึงความฉลาดของการใช้ไหวพริบ โดยไม่ต้องลงแรงอะไร และเราจะพูดถึงประเด็นอื่นๆอย่างไรอีกมันคงมีต่อไปเรื่อยๆ

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ประชาธิปไตย

ประเทศเรานี้ยังไม่เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ เห็นข่าวมากมายเกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มชนหลากหลาย และตอนนี้ยังไม่มีใครที่จะสามารถยุติเรื่องเหล่านี้ลงได้ ปัญหาที่สำคัญของความขัดแย้งจากความคิดเห็นของตนเองคิดว่าเป็นเพราะ ประเทศเรายังไม่เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ไม่มีใครยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ความเท่าเทียมกันของสังคม และสิทธิเสรีภาพเริ่มเลือนลางลงทุกที

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เขมรเอาจริงบอยคอตสินค้าไทย...มาม่ารายแรก

ปราสาทเขาพระวิหาร ไทย + เขมรตึงเครียด มาม่ารับไปเต็มๆรายแรก
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อมาม่า (Mama) ของไทย ซึ่งเป็นยี่ห้อยอดนิยมของชาวกัมพูชาได้กลายเป็นเหยื่อรายแรกของการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างสองประเทศกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่ยี่ห้อนี้ ได้ยุติการผลิตตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางกระแสชาตินิยมบอยคอตสินค้าไทยของเขมร การรณรงค์ต่อต้านสินค้าไทยเริ่มเห็นผล ยอดขายบะหมี่ยอดนิยมตกลงเห็นได้ชัด ชาวกัมพูชาได้หันไปหาทางเลือกที่ไม่ค่อยเต็มใจมากนัก คือ บะหมี่จากจีนและเวียดนาม ขณะที่ "หมี่ยืง" (Mee Yeung) หรือ “บะหมี่เรา” ที่ผลิตในกัมพูชาก็ขาดตลาด เสียงเรียกร้องให้คนเขมรทั้งประเทศไม่ซื้อสินค้าไทยที่ดังกระหึ่มทั่วราชประเทศในช่วงนี้สัปดาห์ได้ทำให้บริษัท แมนสะรุน (Men Sarun Co) ซึ่งจำหน่ายบะหมี่มาม่าของไทย หยุดการผลิตลงชั่วคราว โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของบริษัทหวังว่า หลังเลือกตั้งวันอาทิตย์ (27 ก.ค.) นี้ บรรยากาศคงจะดีขึ้น และจะได้เริ่มการผลิตอีก นิตยสารข่าวภาษาฝรั่งเศส “กัมโบดจ์ซวาร์” (Cambodge Soir) ในกรุงพนมเปญรายงานเรื่องนี้โดยไม่ได้ให้รายละเอียดว่า บริษัทดังกล่าว “ผลิต” บะหมี่ของไทยอย่างไร? สัปดาห์นี้ได้มีมือมืดส่งข้อความสั้นเข้าโทรศัพท์มือถือนับหมื่นๆ เครื่อง มีการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชาและเกาะสันติภาพ เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาต่อต้านสินค้าทุกชนิดที่เป็นยี่ห้อจากประเทศไทย
“เราไม่อาจจะให้ประเทศไทยดูหมิ่นเหยียดหยามชาวกัมพูชาต่อไปได้ ถ้าหากคุณเป็นคนเขมรและมีเลือดเขมร ให้ส่งต่อข้อความนี้ไปยังเพื่อนมิตรของชาวกัมพูชาในทั่วโลก” ข้อความดังกล่าวถูกส่งเข้าโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศในช่วง 2-3 วันมานี้ พร้อมกับคำชักชวนให้ชาวกัมพูชาเลิกใช้สินค้าที่ติดภาษาไทยบนซองหรือหีบห่อทุกชนิด วันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ภาษาเขมรทั้งสองฉบับซึ่งมีบทความรายงานและคอลัมน์ต่อต้าน “การรุกรานของไทย” อยู่แล้ว ยังได้ลงโฆษณาจากบุคคลลึกลับเรียกร้องให้ทั่วทั้งประเทศเลิกนำเข้า เลิกซื้อและเลิกจำหน่ายสินค้าและบริการจากประเทศไทย ข้อความโฆษณาดังกล่าวได้วาดรูปราสาทพระวิหารกับธงชาติกัมพูชากำกับไว้ พร้อมคำขวัญ “รวมกันชาวเขมรรอด แตกแยกกันชาวเขมรตาย” กัมโบดจ์ซวาร์ กล่าว แม่ค้าแม่ขายจำนวนหนึ่ง รวมทั้ง นางนี วัย 27 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายของชำในตลาดโอลิมปิก กรุงพนมเปญ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เคยขายบะหมี่มาม่าได้วันละ 200 ซอง ตอนนี้ลดลงเหลือราว 60 ซองต่อวัน “ยอดขายมาม่าค่อยๆ ลดลงตามลำดับ ตอนนี้คนหันมาซื้อหมี่ยืงที่ผลิตในกัมพูชาแทน แต่ก็มีอยู่ในร้านไม่พอ” นางนี กล่าว “ผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปมากจริงๆ หลายคนหันไปซื้อบะหมี่เวียดนามเลยทีเดียว.. แต่หลายคนก็ลังเลเพราะว่าคุณภาพไม่ดี” นางนี กล่าวเพิ่มเติม นายขุน (Khun) เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดวัย 36 ปี ของบริษัท แมนสะรุน กล่าวว่า บริษัทเลิกผลิตมาม่ามาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่อาจจะเริ่มผลิตอีกครั้งหลังเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าอะไรๆ ก็อาจจะดีขึ้น เมื่อถูกถามสาเหตุที่หมี่ยืงขายดีจนขาดตลาด นายขุนกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเข้าใจได้ “เพราะใครๆ ก็หาซื้อเพื่อนำไปบริจาคให้ทหารกับประชาชนที่เขาพระวิหาร ทุกคนอยากจะแสดงความรักชาติ พวกเขาก็เลยหาซื้อยี่ห้อของเขมร” อย่างไรก็ตาม นางฮง (Hong) แม่ค้าวัย 30 ปี เจ้าของร้านค้าใกล้ๆ ตลาดโอลิมปิก กล่าวอย่างสงสัยว่า ชาวเขมรด้วยกันเองจะต่อต้านบะหมี่ของไทยได้นานแค่ไหน เพราะว่าคนที่รับประทานบะหมี่ไทยแล้วก็จะไม่หันไปกินบะหมี่จีนหรือบะหมี่เวียดนามอย่างแน่นอน “ถึงแม้รัฐบาลจะร่วมต่อต้านอย่างเป็นทางการ ผู้บริโภคก็จะยังถามหาสินค้าไทยต่อไป และแม่ค้าก็คงจะหามาขายให้จนได้เช่นเดียวกัน” นางฮง กล่าว

จากPostในเว็บวันพฤหัสบดี ที่ 24 กรกฎาคม 2551
http://www.oknation.net/blog/uthai/2008/07/24/entry-3

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

คนจะเชื่อในสิ่งที่เขาอยากเชื่อ

ฉันไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไม "คนจะเชื่อในสิ่งที่เขาอยากเชื่อ" อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้คนเหล่านั้นเป็นแบบนั้น (จากหนังฝรั่ง2เรื่อง)ฉันเป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อแบบนั้น ฉันจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองพิสูจน์เองหรือจากการพิสูจน์จากนักวิชาการ นักปรัชญา นักดาราศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ และตอบด้วยตนเองได้ว่าจะเชื่อหรือไม่ ฉันไม่เชื่อการเล่าต่อกันมาเป็นทอดๆ เช่น ตำนาน นิทานประรำประรา และอื่นๆ ถ้าคุณเคยเล่นเกมพูดส่งต่อกันจากคน 10 คน คุณจะพบว่าคำพูดของคนแรกต้นทางและคนสุดท้ายปลายทางมันแตกต่างกันมากแค่ไหน คุณก็จะเข้าใจมากขึ้นว่าคุณเชื่ออะไรจากปากต่อปากไม่ได้ ปัจจุบันนี้คนในสังคมเป็นอย่างไร แม้แต่คำสอนทางพระพุทธศาสนาเดี๋ยวนี้จากพระ-เจ้าบางคนยังบิดเบือนจนน่าตกใจ บางทีการรอการพิสูจน์ด้วยตนเอง หรือการพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญเสียก่อนก็ไม่ทันท่วงที หรือบางทีก็ตอบด้วยนักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ จากหนังเรื่องนี้ให้เหตุผลว่า"เป็นสิ่งที่ง่ายกว่าที่คนจะเชื่อในสิ่งที่เขาอยากเชื่อ" แต่ด้วยความไว้ใจจึงทำให้เขาเลือกจะไม่เชื่อในสิ่งที่เขาอยากเชื่อ แต่มันยังไม่เพียงพอสำหรับความสงสัยของฉัน อะไรคือสิ่งที่เราควรเชื่อ และเราควรเชื่ออะไรหล่ะ ใครรู้บ้าง

เรื่องเล็กๆของคนอื่นปะ!!

บังเอิญเมื่อวานไม่มีสิ่งที่สามารถเก็บภาพได้ในเวลานั้น ขอใช้ภาพคนนั่งรอรถเมย์แก้ขัดและกัน

เมื่อวานฉันกลับบ้านช้ากว่าปกติเพราะด้วยเหตุฝนตกหนักมากถึงมากที่สุด ทำให้การจราจรเป็นอัมพาต น้ำบนถนนเริ่มเจิ่งนอง ท่อระบายน้ำระบายน้ำบนถนนออกไม่ทัน จนเกิดน้ำท่วมขนาดย่อม ฉันนั่งอยู่บนรถและเฝ้ามองสภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจมากที่สุดคือบริเวณป้ายรถเมย์ ทุกป้ายที่รถฉันผ่าน คนที่ยืนรอรถไม่มีใครพ้นสภาพเปียกโชกได้แต่ละคนต้องขึ้นไปยืนอยู่บนเก้าอี้ที่ไว้สำหรับนั่งรอ "บริเวณฟุตบาทตรงป้ายรถเมย์น้ำก็ท่วมไม่ถึงนะทำไมต้องไปยืนบนนั้นกัน"ฉันคิดอยู่ในใจ แต่ปรากฎว่าที่กำบังหรือหลังคาป้ายรถเมย์ไม่สามารถบังฝนได้ต่างหาก ฉันเห็นน้ำฝนไหลเป็นสายรอดผ่านหลังคาตรงบริเวณนั้น(ทำไมเห็นชัดขนาดนั้น ก็ฉันนั่งรถที่ชิดเลนฟุตบาทอะสิ) จึงทำให้คนที่ยืนอยู่ใต้หลังคาป้ายรถเมย์เปียกโชกขนาดนั้น และที่ไปยืนอยู่บนเก้าอี้ก็อาจเป็นเพราะตรงนั้นกำบังฝนได้บ้างเลยทำให้คนหลายคนต้องขึ้นไปยืนอยู่บนนั้น(ฉันคาดการณ์นะ55) จากภาพเหตุการณ์นั้นทำให้ฉันครุ่นคิดว่าทำไมเราในฐานะคนหนึ่งที่จ่ายเงินภาษีอากรให้ประเทศ กับแค่เรื่องเล็กๆขนาดนี้ไม่มีใครลงมาแก้ไขอะไรบ้าง ปัญหานี้อาจไม่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนที่มีรถประจำตัว แต่มันเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนที่โดยสารรถสาธารณะอย่างฉันเอามากๆ ปัญหาแบบพื้นๆสามัญๆแบบคนไม่ค่อยมีกะตังค์ซื้อรถขับอย่างฉันนี้แหละ ฉันอยากให้คนในรัฐบาลมองและแก้ไขจุดเล็กๆ นี้ก่อน ก็คงจะดีไม่ใช่น้อย

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

AIGA NY Holiday Wrapping Paper


แม้มันจะเป็นข่าวเก่าๆของAiga

วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ประหลาดใจของฉัน

เคยมีความรู้สึกล่วงหน้าไหมว่าวันนี้ต้องมีเรื่องประหลาดใจบางอย่างจากเพื่อนเก่า สำหรับตนเองนั้นเพื่อนเก่าแก่ดึกดำบรรพ์ ไม่ว่าจะประถมหรือมัธยม ก็ยังติดต่อกันไม่ขาดสาย แม้ว่าจะไม่ได้พบเจอกันเหมือนในสมัยเรียน แต่ความรู้สึกดีๆ ก็ยังคงเหมือนเดิมเสมอ ฉันโชคดีที่ยังมีเพื่อนจากร.ร.เก่าติดสอยห้อยตามมาอยู่ที่นี่บ้าง แต่ไม่รู้ทำไมสิ! เกือบทุกครั้งไปที่รู้สึกว่าวันนี้จะได้เจอเพื่อนเก่าที่อยู่ที่นี่ก็มักจะได้เจอเกือบทุกครั้ง มันเป็นเรื่องประหลาดใจที่ทำให้ประทับใจสำหรับฉันมาก ไม่ขอค้านว่ามหาลัยเราเล็กนะ 555

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2552

รองเท้าหลุด

ฉันต้องไปทำธุระบางอย่างในสถานที่ค่อนข้างชนบทไม่มีร้านค้า มีแต่ตึกและบ้านพักอาศัย ซึ่งวันนี้ฉันได้ใส่รองเท้าหุ้มส้นไป ปรากฎว่าระยะการเดินทางเท้าของฉันช่างยาวนาน และรองเท้าของฉันก็ไม่ทนทานสักเท่าไรหนัก แต่ก็มาถึงที่หมายที่ต้องการและทำธุระที่ฉันต้องการเรียบร้อย แต่ปัญหาคือตอนกลับออกมาจากสถานที่นั้นๆ แน่นอนว่าต้องเป็นระยะทางเท่าเดิม และรองเท้าของฉันก็ย่ำแย่มากเต็มที สุดท้ายคือรองเท้านั้นขาดและหลุดเป็นชิ้นๆจนแทบจะดูไม่ออกว่าแต่แรกเริ่มนั้นคือรองเท้า และบริเวณนั้นก็ไม่มีร้านค้าที่พอจะให้ฉันสามารถซื้อรองเท้าคู่ใหม่ได้ ฉันจึงต้องจำยอมเดินเท้าเปล่า ออกมา

วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ไม่มีหมายเลขน้อยกว่าเท่ากับ 0

ในประสบการณ์ต่างๆที่เราได้รับจากการดำรงชีวิตไม่มีหมายเลขน้อยกว่าเท่ากับ 0

วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Pizza Hut เปลี่ยนชื่อเป็น Pasta Hut


Change Name

เมื่อ Pizza Hut ที่โด่งดังไปทั่วโลก ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อ หรือแบรนด์ของตัวเอง จาก Pizza Hut เป็น Pasta Hut เนื่องจากว่า คนทานพิซซ่ากันน้อยลง เพราะเชื่อกันว่า มันเป็น junk food ซึ่งกินแล้วไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ หรือที่เรียกว่า อาหารขยะนั่นเอง เหตุผลอีกข้อที่ตัดสินใจเปลี่ยน นั่นก็คือ คนหันมาทาน พาสต้า กันเยอะขึ้น นั่นเอง แต่ไม่รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ จะเป็นผลดี หรือหายนะกันแน่

สุดคุ้ม

วันนี้ฉันโทรสั่งPiZZaHut (1150)เป็นอาหารมื้อดึก เพราะจากรูปถ่ายในโฆษณาที่ปรากฎลงใน hand bill เป็นPiZZa หน้าใหม่ กุ้งตัวโต บน PiZZa เต็มๆ ว้าว....ววว น่าทานมากๆ บวกกับคำโปรยในโฆษณา "กุ้ง แอนด์ แก๊ง บาร์บีคิว พิซซ่า เต็มๆกับกุ้งเนื้อแน่น ไส้กรอกหมูรมควันเต็มชิ้น เข้มรสบาร์บีคิวซอส" ที่ทำให้รู้สึกถึงหน้าบนPiZZa อย่างเนื่องแน่น เมื่อเวลาส่งมาถึงบ้าน พอเปิดกล่องใส่PiZZaปรากฎว่าหน้าบนPiZZa ชั่งประหยัดอะไรเช่นนี้ พบกุ้งตัวเล็ก ไส้กรอกชิ้นน้อย ราคาสุดคุ้มจริงๆ 259 บาท

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สีเมจิ

งานศิลปะชิ้นเอก อาจสร้างได้ด้วยสีเมจิแท่งเดียว

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

มองอีกมุม

การมองโลกในมุมอื่นๆเสียบ้างก็สามารถทำให้เรามีความรู้สึกที่แตกต่างจากเดิม

วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การมอง

การสัมผัสจากการมองเห็นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ทุกวันกับสิ่งที่เราพบและเห็น เราสามารถนำสิ่งที่เราได้จากการสัมผัสเหล่านี้เข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับตัวเราเองมากน้อยเพียงใด มีความพอดี เหมาะสม มากไป หรือน้อยไปหรือไม่ You don't look but you see. ก็เพียงพอ แต่เราจะเข้าใจสิ่งที่เราสัมผัสหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละบุคคล

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ละครเวทีแม่นาค Musical



เพื่อนๆละครเวทีของ dreambox เรื่องแม่นาค Musical ไม่ใช่ของบอยนะค่ะ แม้ตนเองจะไม่เคยดูของละครเวทีของบอยมาก่อน แต่ก็นับว่าละครเวทีแม่นาค Musical สร้างความประทับใจได้ไม่น้อย ฉากที่ประทับใจมากที่สุดสำหรับตนเอง คือ ฉากสายหยุดก่อนสิ้นใจ แม้ว่าตนเองจะได้มีโอกาสอ่านเนื้อเรื่องมาก่อนแล้วแต่ก็ให้ความรู้สึกแตกต่างโดยสื้นเชิงไม่ว่าจะเป็น เพลง บรรยากาศ และอารมณ์ที่ถ่ายทอดจากการแสดง ที่ช่วยเพิ่มสัมผัสในการชมมากขึ้น
ตนเองได้มีโอกาสชมละครเรื่องนี้ 2 รอบ กลับมีความรู้สึกแตกต่างกัน ในครั้งสองที่ได้ชมรู้สึกดูแล้วประทับใจมากกว่า อาจเป็นเพราะ ลำดับที่นั่งด้วยจากครั้งแรกได้นั่งแถว E แต่ครั้ง 2 ได้นั่งแถว B เกือบชิดขอบเวทีเลยทำให้ได้เห็นรายละเอียดในการแสดงมากขึ้น บวกกับมีการเปลี่ยนแปลง Dialog ในการแสดงให้กระชับขึ้น เลยทำให้รู้สึกไม่เยิ่นเย้อจนเกินไปเมื่อเทียบกับการดูในครั้งแรก

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การถ่ายทอด

การถ่ายทอดข้อมูลจากสิ่งหนึ่งไปสู่อีกสิ่งหนึ่งไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคลหรือสิ่งของ สิ่ง/ผู้ถ่ายทอดทุกสิ่ง/ทุกคนสามารถทำได้ต่อสิ่ง/ผู้รับข้อมูลนั้นๆ โดยปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวแปรคือ สิ่งแวดล้อม ประสบการณ์ ศักยภาพของสิ่ง/ผู้ถ่ายทอด และสิ่ง/ผู้ที่รับข้อมูล
ในฐานะนักออกแบบ สิ่งที่เราต้องเรียนรู้สำหรับนักออกแบบ(ทุกแขนง)ก็คือการสร้างศักยภาพของตนเองสำหรับการเป็นทั้งสิ่ง/ผู้ถ่ายทอด และสิ่ง/ผู้รับข้อมูล โดยการพยายามนำตนเองเข้าไปอยู่ในสภาวการณ์ที่ทำให้เราสามารถเพิ่มพูนศักยภาพ(ในเรื่องที่เราสนใจ/ต้องการ)ให้มากที่สุด และปรับ ประยุกต์ใช้สิ่งที่เราได้เก็บเกี่ยวมาใช้ในการออกแบบ(ทุกแขนง)ในปัจจุบัน

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ท่าที

วันก่อนใน Class วิชา CD5 ได้ถกปัญหาในห้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆมากมาย แม้ว่าตัวเองจะมีส่วนร่วมในห้องเรียนน้อยก็ตาม แต่ฉันก็สนใจกับคำๆหนึ่งที่อาจารย์ได้กล่าวถึงใน Class นั้นคือคำว่า "ท่าที" 555 ซึ่งมันใกล้เคียงกับ project ของฉันในเทอมนี้ แต่เรื่องท่าทีที่ได้กล่าวถึง ทางต่างประเทศเขาได้มีศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องนี้มานานแล้ว เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวมากสำหรับทุกๆคน อะไรที่แสดงออกเล็กๆน้อยๆทางภาษากาย ก็สามารถบ่งบอกถึงความคิดความอ่านของคุณได้อย่างน่าสนใจ และยิ่งถ้าใครมีศาสตร์ทางด้านนี้มากเท่าไหร่ สำหรับฉันนั้นคิดว่าอะไรอะไรก็ง่ายสำหรับตัวเองหมด

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

หนังสือภาษาอังกฤษ

เวลาเราจำศัพท์ภาษาอังกฤษแต่ละคำนั้น เราได้แค่จำรึเปล่า หรือเราเข้าใจมันด้วย เมื่อวันก่อนฉันเข้าร้านหนังสือแห่งหนึ่ง มีหนังสือภาษาอังกฤษที่แปลกมากๆอยู่บางเล่มที่บอกความหมายของคำศัพท์เหล่านี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน และฉันก็รู้สึกว่าน่าสนใจมาก ยกตัวอย่างเช่น This is baby. หมายถึง นี่คือเด็กทารก ถ้ามีเพียงเท่านี้ก็คงเหมือนหนังสือสอนภาษาอังกฤษทั่วๆไป แต่ยังมีทำแปลต่อไปอีกว่า เด็กทารกคนนี้ ผู้พูดไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ไม่ได้สนิทหรือเป็นเครือญาติ และผู้พูดยังไม่ทราบเพศของเด็กทารก เป็นต้น ความจริงยาวกว่านี้แต่ฉันตัดเอาแค่ประเด็นสำคัญมาเล่าให้ฟัง และเมื่อฉันย้อนเวลากลับไปตอนเรียนวิชาภาษาอังกฤษในวัยเด็ก ไม่เคยมีท่านอาจารย์ท่านสอนความหมายของศัพท์ภาษาอังกฤษแบบนี้เลย ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก นี้อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ ไม่เก่งภาษาอังกฤษ และใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษกันอย่างผิดๆ

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

มิตรภาพ

ใครหลายๆคนมองหามิตรภาพจากคนรอบข้าง และมีบางคนบอกว่าฉันอยากเจอมิตรภาพดีดีจากคนรอบข้างบ้าง และเขาผู้นั้นก็บอกว่าเขาไม่เคยเจอ แต่แท้ที่จริงแล้วมิตรภาพเกิดขึ้นทุกๆวันนั้นอยู่แล้วและเกิดภายในครอบครัวของตนเอง

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ความเชื่อ

ประเภทหนัง : Comedy, Drama, Kids/Family and Science Fiction/Fantasy

หนังนำแสดงโดย Dustin Hoffman, Natalie Portman และ Jason Bateman

ความเชื่อในสิ่งที่ตนเองวาดฝัน ฟังเสียงภายในจิตใจของตนเองว่ามีความเชื่อในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่หรือไม่ และคอยย้ำเตือนความเชื่อนั้นสำหรับความคาดฝันของคุณ ด้วยแรงบันดาลที่คุณมี คุณก็สามารถเป็นอะไรๆ ที่คุณเชื่อว่าคุณเป็นได้
(แรงบันดาลใจการเขียนบทความจากภาพยนตร์เรื่องมหัศจรรย์ร้านของเล่นพิลึกโลก)

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ความเหมือนกับความต่าง

เราสามารถแยกความรู้สึกจากสิ่งธรรมดาพื้นฐานโดยทั่วไปได้อย่างไร

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ความชอบต่างกัน

คนเรามีความเห็นต่างกัน มีความชอบต่างกันจะให้คนทุกคนประทับใจหรือรู้สึกเห็นพ้องต้องกันกับการกระทำของบุคคลคนหนึ่งหรือสิ่งของสิ่งๆหนึ่งไปทั้งหมดก็ใช่ว่าจะทำได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่การทำให้บุคคลคนหนึ่งหรือสิ่งของสิ่งๆหนึ่งเป็นที่ประทับใจหรือรู้สึกเห็นพ้องต้องกันกับคนส่วนใหญ่ต่างหากเป็นเรื่องสำคัญ

การหนีปัญหาไม่ดีจริงๆหรือ?

ตั้งแต่วัยเด็กใครหลายๆคนอาจเคยได้รับการอบรมสั่งสอนจากผู้ใหญ่ หรือผู้ที่มีประสบการณ์ว่า การหนีปัญหาไม่ใช่เรื่องที่ดีและสิ่งที่ถูกต้อง พร้อมทั้งประกอบกับเหตุผลต่างๆนานาของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันออกไปตามประสบการณ์ตนเองที่ได้เจาะเจอ เพื่อให้เรารู้สึกเห็นด้วยกันสิ่งที่เขาได้กล่าวนั้น แต่แท้จริงแล้วการหนีปัญหานั้นเป็นทางออกที่ไม่ดีจริงๆหรือ? เหตุใดเราจึงเห็นนักธุรกิจมากมายที่ไม่ประสบความสำเร็จและต้องบินหนีออกนอกประเทศตนเองไปตั้งต้นชีวิตใหม่ต่างแดน การถอดทอนหุ้นจากธุรกิจที่ไม่ให้กำไร การปิดกิจการ เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ที่เราเห็นความผิดพลาดของบุคคลเหล่านี้แล้วจบด้วยการหนี ละ เลิก และไม่พยายามก้าวเข้าไปแก้ปัญหาต่างๆในตรงจุดเสียก่อน

โดยส่วนตัวแล้วตนเองยังไม่รู้ว่า การหนีปัญหานั้นให้ผลดีหรือผลร้ายมากกว่ากัน

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การใช้ประโยชน์จากสิ่งรอบๆกาย

สิ่งรอบๆกายล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น หากเรามองหาประโยชน์จากมันสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็ล้วนใช้ประโยชน์ได้ทั้งนั้น

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ก้าวกล้า

การมองการณ์สำหรับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตนเองเป็นสิ่งที่ดี แต่การมองตัวเองในขณะอยู่การณ์ปัจจุบันนั้นก้าวกล้ายิ่งกว่า

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ความรู้สึกของต้นไม้


An ancient art form re-emerges.... Arborsculpture
การดูแลเอาใจใส่ของบุคคลคนหนึ่งต่อสิ่งที่ตนรัก บางคนคิดเอาเองฝ่ายเดียวว่าสิ่งต่อไปนี้ดีต่อสิ่งที่ตนรัก(ต้นไม้)โดยไม่เคยสนใจศึกษาว่าของสิ่งนี้เหมาะสมต่อต้นไม้หรือไม่ บางคนสรรหาทุกสิ่งทุกอย่างเพื่ออยากให้สิ่งที่ตนรักนั้นพอใจแบบล้นโดยศึกษาว่าของสิ่งนี้เหมาะสมต่อต้นไม้แล้ว แต่ขอใส่สิ่งอื่นๆเพิ่มโดยตนเองคิดว่าดี แต่บางคนเพียงแค่ศึกษาตำราการปลูกต้นไม้ และให้สิ่งที่เขาต้องการตามตำราเพียงเท่านั้น ต้นไม้นั้นก็เติบโตได้ อยู่ที่คุณจะเลือกเป็นคนแบบไหนสำหรับต้นไม้ของคุณ

"Bike Tree" Keeps Bikes Off Ground, Away From Sticky Fingers

by Lloyd Alter, Toronto

หมายเหตุ: ต้นไม้ หมายถึง สิ่งที่คุณคิดว่าสำคัญในตอนนี้

ความจริงแล้วนั้น

ไอศครีม

(ไม่ใช่ไอศครีม เนื้อสัตว์บนไม้ไอศครีม)


ความจริงแล้วสัจธรรมของสิ่งที่พบเจอนั้นล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นและดับลงตามกาลเวลา ขึ้นอยู่กับว่าใครจะหยิบสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาเหล่านั้น มาปรุงแต่งและทำให้มันน่าสนใจเพื่อสนองต่อกิเลสของตนเอง และถ้าเปรียบสิ่งๆนี้กับการออกแบบนิเทศศิลป์ ซึ่งนักปรุงแต่งอย่างพวกเราต้องหาวิถีปรุงแต่งให้แนบเนียนกับสัจธรรม แต่อย่าลืมว่ามันแค่เหมือนสัจธรรมไม่ใช่สัจธรรม
(ความคิดเห็นจากการเรียนในclass)

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การจัดการ

เวลาที่เรามองเกมอะไรอะไรออกไปเสียหมดจนรู้ว่าจะจัดแจงยังไงกับมันไม่ได้หมายถึงการบรรลุเป้าหมายอย่างแท้จริง แต่คำว่าลงมือทำต่างหาก คือการเข้าไปแก้ปัญหาให้ตรงจุด

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ไม่รู้ว่าอะไรสำคัญ

อะไรที่เคยสำคัญตอนนี้มันค่อนข้างจะลดความสนใจลงไป ต้องโทษความละเลยของตนเอง

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สนุกแบบเกรงๆ

วันนี้ก่อนออกจากบ้านรู้สึกตัวเองไม่พร้อมอะไรสักอย่าง พอมาถึงห้องเรียน experimental typo เราก็ได้นั่งทำงาน ก็รู้สึกสนุกคะ แต่ก็ยังเกรงๆว่าวันพฤหัสที่จะมาถึงอันใกล้นี้จะเป็นอย่างไร

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Motivation

สำหรับการทำงาน เราทุกคนมี motivate ต่างกันอยู่ที่ประสบการณ์ที่สั่งสม สภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ บวกกับเจตนารมณ์ของตัวบุคคลผู้นั้นที่มีเป้าหมายของชีวิตที่แตกต่างกันไป

วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552

การทำงาน

ความรู้สึกของการทำงานที่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของฉันในตอนนี้ การทำงานที่ต้องท้าทายกับแปลกใหม่และต้องไม่ซ้ำใคร ไม่มีใครเหมือนเป็นเรื่องสำคัญมากๆสำหรับฉันตั้งแต่เริ่มเรียนในสาขาวิชานี้ แต่การที่จะทำอะไรไม่ซ้ำใครได้ก็ต้องรู้มาก่อนว่าใครเขาทำอะไรมาบ้างแล้ว ซึ่งฉันไม่สามารถรู้ได้ทั้งหมดของคนบนโลกนี้ทุกมุมโลก แต่ฉันฉันจะพยายามต่อไป

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ไม่รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะหายไป

หลายหลายอย่างในชีวิตที่เคยจดจำได้เริ่มหายไป ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่ดีกับสิ่งต่างๆรอบกาย และในจิตใจ อาจเป็นเพราะไม่อยากจดจำ หรือสิ่งรอบข้างที่เคยสนใจของฉันกลับเปลี่ยนไปก็เป็นได้ เหมือนกับว่าเวลาเราทานก๋วยเตี๋ยวทุกวันแล้วรู้สึกว่าอยากลองเปลี่ยนไปทานข้าวผัดพริกไทยดำ แต่เพียงไม่รู้ว่าการเปลี่ยนในครั้งนี้จะส่งผลอย่างไร ขอปรับเปลี่ยนตนเองให้เข้าที่นิดหน่อย ข้าวผัดพริกไทยยังต้องใส่พริกไทยดำเสียก่อน เพราะขั้นเริ่มต้นของเรายังไม่perfect

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เตรียมทีสิตไป 3 อันเลย

น้ำหนักของงานนับว่าเกือบจะเท่ากันเลยเสียทีเดียวทั้งหมด ถ้าเราผ่านทั้ง 3 อัน ท่าทางคงมีอะไรอะไรสนุกในชีวิตที่อยากทำอีกมากมาย เพราะงานทั้งหมดนี้โดนรับรองจากอาจารย์เรียบร้อยแล้วแค่อยากทำอันไหนมากสุดก็เท่านั้น

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552

อะไรที่ผ่านมาสำหรับเรามันต้องไม่ผ่านไป

อะไรอะไรมันผ่านเข้ามาในชีวิต และเราชอบละเลยสิ่งที่เราได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็น แต่เราพยายามจะไม่ละเลยมันไป เมื่อหลายปีที่ผ่านมารู้สึกสิ่งที่ผ่านเข้ามา และประสาทสัมผัสเราจับได้ไวมากๆ แต่เดี๋ยวนี้มันเจือจางลง เพราะความไม่เอาใจใส่มัน ละเลยมัน เราจะพยายามอีกครั้งให้อะไรที่ผ่านมาสำหรับเรามันต้องไม่ผ่านไป

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2552

การเต้นให้เป็นจังหวะ

การฝึกเต้นให้ตรงจังหวะ ให้เป็นไปในท่าทางต่างๆตามความสวยงามของสรีระร่างกายที่เราจัดวาง มันง่ายกว่าการสอนคนๆหนึ่งที่เต้นไม่เป็นหรือประสบการณ์เต้นน้อยให้เต้นเป็น เหมือนการคิดงานออกแบบ เมื่อคน2คนที่มีทักษะด้านการออกแบบต่างกัน บวกกับประสบการณ์อื่นๆร่วมที่มี เมื่อได้รับโจทย์เดียวกัน concetp คล้ายกัน แต่ท้ายที่สุดแล้วผลงานที่ออกมาก็มีความแตกต่างตามประสบการณ์การออกแบบที่มีมากน้อยของบุคคลผู้นั้น

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สัตว์เดรัจฉาน/สัตว์ประเสริฐ

ก่อนที่จะเข้าเรื่องขอกล่าวความหมายของศัพท์คำนี้เสียก่อน คำว่า"สัตว์เดรัจฉาน" เป็นสัตว์ที่ต้องอยู่ในอบายภูมิเดียวกันกับมนุษย์ตามหลักพระพุทธศาสนา ซึ่งตามหลักพุทธศาสนานั้นถือว่า สัตว์เดรัจฉานเกิดจากที่ผู้นั้นได้ทำกรรมเอาไว้ในวัฏสงสารตั้งแต่ชั้นพรหมลงมา
สัตว์เดรัจฉาน เป็นหนึ่งในสองภพภูมิที่พระพุทธองค์ทรงกล่าว จำแนกไว้ ที่เราสามารถพิสูจน์ได้เดี่ยวนี้ ปัจจุบันขณะนี้ ว่ามีจริง (หนึ่งคือภูมิมนุษย์หรือมนุสสภูมิ สองก็คือภูมิเดรัจฉานนี่เอง) สัตว์เดรัจฉาน ใกล้มนุษย์เข้ามาอีก มีชีวิตความเป็นอยู่ไปตาม สัญชาตญาณ มีทุกข์สุขแตกต่างกันไปตามแต่แรงบุญและกรรม ที่กระทำมาและกำลังส่งผลในภพชาติที่มาเกิดเป็นเดรัจฉานนี้
http://th.wikipedia.org/wiki/สัตว์เดรัจฉาน
มนุษย์เป็นสัตว์พิเศษ ซึ่งแตกต่างจากสัตว์ทั้งหลายอื่น สิ่งที่ทำให้มนุษย์เป็นสัตว์พิเศษ ได้แก่ สิกขา หรือการศึกษา คือการเรียนรู้ฝึกฝนพัฒนา มนุษย์ที่ฝึก ศึกษา หรือพัฒนาแล้ว ชื่อว่าเป็น "สัตว์ประเสริฐ" เป็นผู้รู้จักดำเนินชีวิตที่ดีงามด้วยตนเอง และช่วยให้สังคมดำรงอยู่ในสันติสุขโดยสวัสดี
http://gotoknow.org/blog/gobetter/83599

สำหรับความเห็นของฉันคำ 2 คำนี้ ไม่แตกต่างกัน มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐเป็นผู้รู้ผิดชอบชั่วดี รู้จักดำเนินชีวิตที่ดีงามด้วยตนเอง จริงหรือ? แล้วทำไมทุกวันนี้จึงมีข่าวหรือเหตุการณ์ฆาตรกรรม โจรกรรม เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สัตว์เลี้ยงที่ช่วยเหลือเจ้าของจากอุบัติเหตุการจมน้ำ ทั้งๆที่ขาช่วงด้านหลังของมันพิการ แต่ก็สามารถช่วยเหลือเจ้าของของมันได้
(เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากคนใกล้ตัว) นี้หรือสัตว์ที่ไม่รู้จักการดำเนินชีวิตที่ดีงาม

อะไรเป็นสิ่งตัดสิน และแบ่งแยก คำ 2 คำนี้ หรือมันเป็นเพียงสิ่งที่อนุมานขึ้นเพื่อทำให้มนุษย์ดูเหมือนอยู่เหนือสัตว์ชนิดอื่นๆ ทั้งปวง

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แรงดึงดูด

การใช้ของ Brandname สามารถเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลได้

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552

โทรมมากๆ

วันนี้หลังจากเลิกเรียนก่อนเข้าบ้าน ก็ไปสระผมที่ร้านทำผมเพื่อผ่อนคลายให้คนเกาผมสบายๆ พร้อมกับนวดศีรษะไปด้วย แต่พอสระผมเสร็จ ตอนมานั่งที่โต๊ะกระจกเพื่อเป่าผมให้แห้ง รู้สึกตกใจกับตัวเองมากเมื่อมองเข้าไปในกระจก และพบว่าเราไม่เคยดูแลตนเองเลย ดูซีด โทรม และไร้ซึ่งความสดใส

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552

คิดทีสิต

ตนเองรู้ว่าอะไรอะไรก็สามารถเป็นทีสิตได้ถ้าเลือกและทำมัน แต่บางทีการเลือกแล้วแต่เรายังไม่รู้ผลสุดท้ายของมันเป็นยังไง จะออกมาในรูปแบบที่เราคิดไหม ยิ่งโตขึ้น ยิ่งตอบคำถามกับตนเองยากมากขึ้น ผนวกกับมันเป็นโปรเจกที่ยาวมากๆตัวหนึ่ง ซึ่งเราคาดหวังกับมันมากๆ จนเกิดอาการเกร็งไปหมดว่าทำแบบนี้จะโอเค จะตอบโจทย์ของเขามากน้อยเท่าไหร่ เกร็ง เกร็ง....ไปหมด

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ทำไมต้องหมูกระทะ

วันนี้ไปกินหมูกระทะเลี้ยงวันเกิดกัน เลยเกิดคำถามเกี่ยวกับคำว่า"หมูกระทะ/เนื้อกระทะ" ทำไมต้องใช้คำนี้ จากประสบการณ์การกินหมูกระทะ เช่น หมูกระทะแฟมิลี่ โคขุน และอื่นๆ เป็นต้น พบว่าลักษณะการประกอบอาหารต้องมาจากอาหารที่ต้องทำให้สุก/กึ่งสุกกึ่งดิบ/ดิบ(แล้วแต่พฤติกรรมการกินอาหารของแต่ละบุคคล) ตามร้านเหล่านี้อาหารก็ไม่ได้มีแต่หมู/โคเนื้อเพียงอย่างเดียวในร้าน ยังมีผัก และเนื้อของสัตว์ชนิดอื่นๆให้สามารถสั่งทานได้ บางทีบางคนก็ไม่ได้เจาะจงว่าจะมาทานหมู/โคด้วยซ้ำ อาศัยที่ชอบทานแบบปิ้ง+บรรยากาศแบบเป็นกันเอง มานั่งกิน+สังสรรค์ อะไรแบบนั้น ส่วนคำว่า"กระทะ"ก็หาใช่กระทะที่เราเห็นตามห้องครัวในบ้านทั่วไป(บ้านของตัวเองมีนะ)แต่ก็จัดว่าอยู่ในประเภทกระทะไม่ว่าจะเป็นกระทะทองเหลืองในร้าน Bar-B-Q หรือ กระทะอะลูมิเนียมตามร้านหมูกระทะทั่วๆไป หรือกระทะเหล็ก ในร้านโคขุน


ตามความเข้าใจของฉัน+ประสบการณ์คำว่าหมูกระทะ/เนื้อกระทะ มาจากร้านอาหารที่ขายเนื้อหมู/โคเนื้อเป็นหลักและสามารถเลือกสั่งอาหารแบบต้องทำให้สุก/กึ่งสุกกึ่งดิบ/ดิบ(แล้วแต่พฤติกรรมการกินอาหารของแต่ละบุคคล)โดยผ่านกระบวนการปิ้งหรือย่างด้วยตัวเอง/สั่งทางร้านทำให้ก็ได้ แล้วแต่ลักษณะการให้บริการทางร้าน แต่ที่สำคัญคือปิ้งด้วยมือเรา และอาหารต้องผ่านกระทะ(ยกเว้นว่าอยากทานดิบๆ เช่น กุ้งแช่น้ำปลา)ก่อนเข้าปาก
สรุปคือ อาหารหลัก+ผ่านกระทะ+เข้าปาก = หมูกระทะ/เนื้อกระทะ

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ฝนตกหนักมากๆ

วันนี้ในตอนเย็นฝนตกหนักฉันรอให้ฝนหยุดตก และมันก็หยุดจริง แต่อีกไม่นานก็ตกใหม่อีกหลายต่อหลายรอบ จะได้ไปซีร็อกงานไหมเนี่ยวันนี้ ฉันรอไม่ไหวก็เลยออกไปทั้งๆที่เปียกฝนนั่นแหละ และก็ได้ซีงานตามที่ใจต้องการ
สรุป การทำอะไรสิ่งๆหนึ่งไม่จำเป็นต้องรอเวลาและโอกาสวิ่งเข้ามาหาเรา แต่เราสามารถเอาตัวเราเองวิ่งเข้าไปหาโอกาสได้

วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552

หมาแก้มป่อง

วันนี้ฉันตื่นมาและพบว่าหมาที่บ้านของฉันแก้มป่องบวมข้างขวา มันไม่ได้อักเสบอย่างนี้มานานเกือบปีแล้ว ดันกลับมาเป็นซะอีก เมื่อก่อนมันป็นบ่อยมากๆ และหมอบอกว่าโดนแมลงกัด แต่แปลกมาก มันเป็นตลอดติดต่อกัน จนพักหลังๆก็ไม่พาไปหาหมอแล้ว เพราะเสียเงินเยอะจริงๆไม่ไหวแล้ว จึงต้องปล่อยให้มันป่องจนแตกเอง หน้าสงสารแต่ไม่รู้ทำไง บางครั้งมันป่อง 2 ข้างพร้อมกัน หน้าเหมือนหมู แต่หมูจมูกสีดำ แต่ขำไม่ค่อยออก คราวนี้ฉันต้องรอให้มันแก้มแตกเสียก่อนไม่อยากบอกเลยว่ามันน่ากลัวแค่ไหน

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ร้องคาราโอเกะ

วันนี้กลับมาจากเรียนcd5 ที่มหาลัย ก็รู้สึกว่าอยากร้องคาราโอเกะมากๆๆๆๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ร้องไปตั้ง2ชม. ไม่รู้ว่าจะรบกวนเพื่อนบ้านในระแวกนั้นรึป่าว

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552

คุยกับตัวเอง

วันนี้แปลกมากกลับมาที่บ้านและพบว่าไม่มีใครอยู่เลย (เงียบๆ อย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะเราคิดอยู่ในใจ) และวันนี้ฉันก็ไม่เปิดเพลงใดๆฟัง ซึ่งทุกครั้งก็จะเปิดฟัง และร้องเพลงตามไปด้วย แต่วันนี้ลองปิด เกิดความครุ่นคิดว่ารู้สึกแปลก และพบว่าเราไม่เคยพูดคุย หรือคิดเรื่องราวกับตัวเองนานพอดูเหมือนกัน เพราะบางทีเราก็ไม่รู้เหตุผลบางอย่างในการกระทำของตัวเองในบางเรื่อง วิธีนี้อาจช่วยค้นพบเหตุผลของการกระทำบางอย่างก็ได้

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สิ่งที่ยาก และไม่ถนัด

เมื่อวานกลับถึงบ้านดึกเลยมาเขียนในวันนี้
เมื่อวานฉันได้ตรวจงาน thesis กับอาจารย์นกและทำให้ฉันนึกถึงคำที่อาจารย์แนะนำ ว่าเวลาในการเลือกหัวข้อในการทำงาน เราไม่ควรเลือกทำในสิ่งที่ยากและไม่ถนัด ไม่งั้นทุกวันของคุณจะเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย และไม่มีความสุขกับการทำงาน จากประโยคนั้นทำให้ฉันหวนคิดถึงว่าไม่มีงานอะไรเลยบนโลกนี้ที่มันยาก และไม่ถนัด ถ้าหากเราได้ศึกษา และเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ แต่ในที่นี้ต้องบวกกับเวลาที่เรามี และในสิ่งที่อาจารย์นกบอกนั้นอาจหมายถึงช่วงเวลาอันสั้นนี้เรามีเครื่องมืออะไรที่เราศึกษามาเป็นอย่างดีแล้ว และพร้อมที่จะใช้มันอย่างไม่ติดขัดนั้นเอง

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เวลา+ความสำคัญ

การจัดแจงเวลา ถ้าเราจัดแจงเวลาให้เหมาะสมแล้วก็ใช้ว่าการทำงานหรือการดำเนินชีวิตจะราบรื่นไปเสียหมด แต่หากว่าเราสามารถแยกแยะความสำคัญของสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้และรู้ว่าเราควรทุ่มเทกับสิ่งไหนมากกว่ากัน นั้นคือความสำเร็จก้าวหนึ่งๆของชีวิต

บังเอิญและตั้งใจไม่ครบ


วันนี้ฉันsearchรูปไปเจอโดยบังเอิญ และเมื่อฉันได้เห็นภาพภาพนี้แล้วทำให้นึกถึงประสบการณ์ต่างๆ ทั้งที่เจอกับตนเองและคนรู้จัก

Salad Serving set
Designer: Konstantin Grcic, 2009
ช้อนคนสลัดด้านขวามือจะจงใจ/ตั้งใจในการดีไซด์ให้เหมือนกับช้อนด้านซ้ายมือ
ไม่ได้ได้มาด้วยความบังเอิญก็ตาม แต่มันก็มีประโยชน์ด้านการใช้งาน(function)
(ตั้งใจพึงพอใจ+สมบูรณ์)



อะไรที่มันมาไม่ครบโดยบังเอิญหรือตั้งใจอย่างใดอย่างหนึ่ง มีความน่าสนใจอยู่หลายอย่าง และอาจทำให้เราพึงพอใจได้หรือไม่ก็ทำให้ใครหลายๆคนอารมณ์เสียไปกับมันได้ หรือไม่ก็ไม่เกิดความรู้สึกทั้งพึงพอใจ และไม่พึงพอใจ(เฉยๆ)

ยกตัวอย่างประสบการณ์จะได้เห็นชัดๆ ดังต่อไปนี้
ตั้งใจพึงพอใจ+สมบูรณ์
แม่ของฉันซื้อชั้นวางของมา ปรากฏว่ามันสูงเกินจำเป็น แม่ฉันเลยทำการเลื้อยขาชั้นออก และในที่สุดก็เหมาะสมกับความต้องการ ดังนั้นแม้เราจะได้ของเกินจำเป็น และเราสามารถทำให้มันไม่ครบ แต่สมบูรณ์ไปด้วยการใช้งาน(function) ก็ได้รับความพึงพอใจ

บังเอิญไม่พึงพอใจ+ไม่สมบูรณ์
การสั่งซื้อของทางโทรศัพท์จากโฆษณาทางทีวี เมื่อคุณได้รับของและเปิดดูข้างใน ปรากฎว่าของบางอย่างไม่ครบตามจำนวนที่แจ้งไว้ และทำให้ต้องเสียเวลาการรอรับสินค้าตัวนั้นใหม่อีกครั้ง หรือไม่ในวันต่อมา หรือบางกรณีก็ไม่สามารถได้ของครบคืนเลย (ประสบการณ์จากเพื่อน) เสียทั้งเวลา เงิน และประโยชน์ต่างๆที่พึงจะได้รับ

บังเอิญไม่เกิดทั้งความพึงพอใจ และไม่พึงพอใจ
ฉันได้สั่งพิซซ่ามาทานที่บ้าน ปรากฎว่าทางร้านลืมใส่ถุงซอสมาให้ พี่สาวฉันโมโหและต่อว่าทางร้าน แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะฉันรู้สึกว่ามันไม่ทำให้ถึงกลับเสียรสชาติ และกลับทำให้เราสัมผัสกับรสชาติที่แท้จริงโดยไม่ต้องปรุงแต่งเพิ่มเติมจึงไม่รู้สึกว่ามันไม่สมบูรณ์

หมายเหตุ:
คำว่า"ความพึงพอใจ" หมายถึง การเห็นชอบกับความสมบูรณ์
คำว่า"ความสมบูรณ์" หมายถึง หน้าที่การใช้งาน(function)ที่ครบครัน และไม่ขาดตกบกพร่อง

ความกล้า

คนเรามีทางออกสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเองต่างกัน สำหรับฉันวันนี้กลับได้พบว่าการแก้ไขปัญหาแบบเดิมๆ มันมีวิธีแก้ไขแบบอื่นที่เร็วกว่า แม้ว่าต้องเสี่ยงหรือเสียเวลาไปกับมันมาก แต่ผลสุดท้ายคือเราได้พบวิธีการใหม่ๆในทางออกใหม่ๆแต่ปัญหาแบบเดิมๆ โดยการใช้ element จาก computer บางอย่าง ก็สามารถช่วยให้การทำงานของเราเร็วขึ้นมากกว่า วาดเองกับมือเพียงอย่างเดียว

วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ลบออก.....กลับเพิ่มขึ้น

วันนี้ฉันได้เปิดกระเป๋าตังค์ของฉันและพบว่ามันรกเสียเหลือเกิน ฉันลื้อของภายในกระเป๋าออกทั้งหมด และทำการจัดเสียใหม่ พบว่ามีสิ่งที่เราไม่ต้องการ นำมันออกจากกระเป๋าเพื่อทิ้ง แต่ฉันกลับพบว่าสิ่งที่เรากำลังจะทิ้งนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการจริงๆหรือ เราได้มองข้ามอะไรไปรึป่าว หรือว่าเป็นเพราะความเคยชินที่เรามองไม่เห็น หรือไม่ทันได้สังเกต สิ่งที่เราละเลยอาจเป็นสิ่งซึ่งมีค่าสำหรับตัวเราเอง หรือ/และบุคคลอื่นๆ เช่น บิล นามบัตร ตั๋วรถเมล์ ....และอื่นๆ เป็นต้น

สรุปผลคือ การลบออก หมายถึง การรื้อกระเป๋า และ การเพิ่ม หมายถึง การพบเห็นคุณค่าของขยะในกระเป๋า มันทำให้ฉันหวนคิดถึงสิ่งของแต่ละชิ้นที่ฉันเคยทิ้งไม่เพียงแต่ขยะในกระเป๋าตนเองเท่านั้น แต่หมายถึงสิ่งต่างๆรอบๆตัวที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญ และมองข้ามมันไป


นั่นทำให้ฉันได้นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง “รีไซเคิล ผีอยากกลับมาเกิด”หนังระทึกขวัญสยองขวัญฟอร์มยักษ์ในนาม แม็ทชิ่ง โมชั่น พิคเจอร์ส ที่ลงขันร่วมกับทาง ยูนิเวอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จากฮ่องกง



จากเนื้อเรื่องได้กล่าวถึง โลก 2 โลก คือโลกปัจจุบัน โลกที่ทุกคนต่างสันสร้างสิ่งต่างๆ และสิ่งของนั้นๆ เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการและยอมรับ กับอีกโลกหนึ่งคือโลกที่มีสิ่งที่ถูกเราทิ้งและไม่ต้องการจากโลกปัจจุบัน ยิ่งเราลบ หรือทอดทิ้งอะไรในโลกปัจจุบัน มันก็กลับปรากฎเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง และเมื่อ2โลกมาบรรจบกันและเราได้เห็นในสิ่งที่เราต้องการ กับสิ่งที่เราลบออกหรือไม่ต้องการ และเหตุการณ์ต่างๆก็ได้เกิดขึ้น แม้สุดท้ายของเรื่องออกจะเกินจริงไปเสียหน่อยแต่ก็นับมันให้ข้อคิดอะไรดีๆเหมือนกัน

ดังนั้น เราจึงควรคิดพิจารณาว่าสิ่งที่เราต้องการทิ้งในเซียววินาทีแรกนั้น เราต้องการทิ้งมันจริงๆเหรอ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยสำหรับตัวเรา และ/หรือตัวคนอื่นจริงรึป่าว



สรุปผลคือ การลบออก หมายถึง บทนิยายที่เขาตัดออก และสิ่งสำคัญในชีวิตที่เขาทอดทิ้ง การเพิ่ม หมายถึง การพบเห็นคุณค่าของสิ่งที่เขาทอดทิ้ง และทำให้เขาอยากหวนเวลากลับไปเพื่อแก้ไขสิ่งที่เขาทอดทิ้ง หรือไม่เห็นความสำคัญ