วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552
เขียนให้ตนเอง
ในชีวิตของตนเองมีความตั้งใจ เป้าหมายอยู่ไม่กี่อย่าง
1.ได้เรียนจบในสถาบันที่มีชื่อเสียง และคนยอมรับ(เป้าหมายข้อนี้ขอทำป.โทก็อยากเปลี่ยนทิศทางการเรียนอย่างกระทันหัน ไม่งั้นตอนนี้ก็คงเห็นตนเองนั่งเรียนเทคนิกการสัตว์แพทย์ที่ม.เกษตร คิดแล้วก็เสียดาย55)
2.ได้เงินเก็บก้อนโตจากการสะสมมานานหลายปี(จะอดใจตนเองไหวไหมนึกอยู่55+)
3.ขอหยุดทำงาน ใช้เงินก้อนที่ตั้งใจเก็บนั้นจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตหรือเสียสละเวลาของตนเองตอนบั้นปลายของชีวิตไปสอนหนังสือบนดอยและกันแบบไม่หวังตังค์55+(เรื่องทำบุญ/กิจกรรมแบบนี้ชอบนักหนา)
*ก็มีเท่านี้ที่อยากทำแต่เรื่องรายละเอียดปลีกย่อยค่อยแจงใหม่วันหลัง*
วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552
"เศรษฐกิจพอเพียงในทัศนะโลก"

ภาวะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันได้เข้าสู่ภาวะวิกฤตที่มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบศตวรรษ เริ่มต้นจากวิกฤตการณ์สถาบันการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ส่งผลเชื่อมโยงถึงระบบการเงินของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ความเสียหายต่อระบบการเงินอย่างรุนแรงได้ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศในยุโรป เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่เศรษฐกิจไทยก็ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ทำให้ต้องหันกลับมาพิจารณาทบทวนกันใหม่ทั้งในประเด็นการลงทุนใช้จ่ายเกินตัวของภาคประชาชน ที่ก่อให้เกิดหนี้สินที่ไม่สามารถชำระคืนได้ ประเด็นความละโมบของภาคธุรกิจที่ต้องการตัวเลขรายได้อย่างไม่พอประมาณและไม่สมเหตุสมผล ก่อให้เกิดการล่มสลายของกิจการ และประเด็นความหละหลวมในการกำกับดูแลของภาครัฐ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ภูมิคุ้มกันในระบบเศรษฐกิจอ่อนแอ เกิดความเสียหายที่มีมูลค่าจำนวนมากมายมหาศาลประเด็นที่กล่าวมาข้างต้น มีความเกี่ยวเนื่องกับหลักความพอประมาณ ความมีเหตุมีผล และการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ซึ่งก็ไม่พ้นที่จะต้องกล่าวถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกันอีกคราวหนึ่ง แต่ในครั้งนี้ จะเป็นการกล่าวถึงเศรษฐกิจพอเพียง จากปากของนักคิด นักวิชาการ และบุคคลที่มีชื่อเสียงชาวต่างประเทศ จำนวน 13 ท่าน ที่ได้แสดงทัศนะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่มีต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเทียบเคียงกับแนวคิดและมุมมองสากล นำมารวบรวมเป็นหนังสือ “เศรษฐกิจพอเพียงในทัศนะโลก” (Sufficiency Economy in Global View) นี้เนื้อหาที่ประมวลจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 13 ท่านนี้ เป็นผลพวงจากการดำเนินโครงการจัดทำแผนที่เดินทาง (Road Map) และการสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียงระหว่างประเทศ โดยสถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคม และสถาบันไทยพัฒน์ มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) นำมาเรียบเรียงเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จำนวนอย่างละ 12 ตอน
วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552
วิชา CD
วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552
คนมากมายที่รู้จัก
วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552
สติกเกอร์
น่าเก็บมาทำอะไรบางอย่าง
วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552
ขยับแต่ไม่เคลื่อนไหว
วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552
ประชาธิปไตย
วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552
เขมรเอาจริงบอยคอตสินค้าไทย...มาม่ารายแรก
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อมาม่า (Mama) ของไทย ซึ่งเป็นยี่ห้อยอดนิยมของชาวกัมพูชาได้กลายเป็นเหยื่อรายแรกของการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างสองประเทศกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่ยี่ห้อนี้ ได้ยุติการผลิตตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางกระแสชาตินิยมบอยคอตสินค้าไทยของเขมร การรณรงค์ต่อต้านสินค้าไทยเริ่มเห็นผล ยอดขายบะหมี่ยอดนิยมตกลงเห็นได้ชัด ชาวกัมพูชาได้หันไปหาทางเลือกที่ไม่ค่อยเต็มใจมากนัก คือ บะหมี่จากจีนและเวียดนาม ขณะที่ "หมี่ยืง" (Mee Yeung) หรือ “บะหมี่เรา” ที่ผลิตในกัมพูชาก็ขาดตลาด เสียงเรียกร้องให้คนเขมรทั้งประเทศไม่ซื้อสินค้าไทยที่ดังกระหึ่มทั่วราชประเทศในช่วงนี้สัปดาห์ได้ทำให้บริษัท แมนสะรุน (Men Sarun Co) ซึ่งจำหน่ายบะหมี่มาม่าของไทย หยุดการผลิตลงชั่วคราว โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของบริษัทหวังว่า หลังเลือกตั้งวันอาทิตย์ (27 ก.ค.) นี้ บรรยากาศคงจะดีขึ้น และจะได้เริ่มการผลิตอีก นิตยสารข่าวภาษาฝรั่งเศส “กัมโบดจ์ซวาร์” (Cambodge Soir) ในกรุงพนมเปญรายงานเรื่องนี้โดยไม่ได้ให้รายละเอียดว่า บริษัทดังกล่าว “ผลิต” บะหมี่ของไทยอย่างไร? สัปดาห์นี้ได้มีมือมืดส่งข้อความสั้นเข้าโทรศัพท์มือถือนับหมื่นๆ เครื่อง มีการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชาและเกาะสันติภาพ เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาต่อต้านสินค้าทุกชนิดที่เป็นยี่ห้อจากประเทศไทย
“เราไม่อาจจะให้ประเทศไทยดูหมิ่นเหยียดหยามชาวกัมพูชาต่อไปได้ ถ้าหากคุณเป็นคนเขมรและมีเลือดเขมร ให้ส่งต่อข้อความนี้ไปยังเพื่อนมิตรของชาวกัมพูชาในทั่วโลก” ข้อความดังกล่าวถูกส่งเข้าโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศในช่วง 2-3 วันมานี้ พร้อมกับคำชักชวนให้ชาวกัมพูชาเลิกใช้สินค้าที่ติดภาษาไทยบนซองหรือหีบห่อทุกชนิด วันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ภาษาเขมรทั้งสองฉบับซึ่งมีบทความรายงานและคอลัมน์ต่อต้าน “การรุกรานของไทย” อยู่แล้ว ยังได้ลงโฆษณาจากบุคคลลึกลับเรียกร้องให้ทั่วทั้งประเทศเลิกนำเข้า เลิกซื้อและเลิกจำหน่ายสินค้าและบริการจากประเทศไทย ข้อความโฆษณาดังกล่าวได้วาดรูปราสาทพระวิหารกับธงชาติกัมพูชากำกับไว้ พร้อมคำขวัญ “รวมกันชาวเขมรรอด แตกแยกกันชาวเขมรตาย” กัมโบดจ์ซวาร์ กล่าว แม่ค้าแม่ขายจำนวนหนึ่ง รวมทั้ง นางนี วัย 27 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายของชำในตลาดโอลิมปิก กรุงพนมเปญ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เคยขายบะหมี่มาม่าได้วันละ 200 ซอง ตอนนี้ลดลงเหลือราว 60 ซองต่อวัน “ยอดขายมาม่าค่อยๆ ลดลงตามลำดับ ตอนนี้คนหันมาซื้อหมี่ยืงที่ผลิตในกัมพูชาแทน แต่ก็มีอยู่ในร้านไม่พอ” นางนี กล่าว “ผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปมากจริงๆ หลายคนหันไปซื้อบะหมี่เวียดนามเลยทีเดียว.. แต่หลายคนก็ลังเลเพราะว่าคุณภาพไม่ดี” นางนี กล่าวเพิ่มเติม นายขุน (Khun) เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดวัย 36 ปี ของบริษัท แมนสะรุน กล่าวว่า บริษัทเลิกผลิตมาม่ามาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่อาจจะเริ่มผลิตอีกครั้งหลังเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าอะไรๆ ก็อาจจะดีขึ้น เมื่อถูกถามสาเหตุที่หมี่ยืงขายดีจนขาดตลาด นายขุนกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเข้าใจได้ “เพราะใครๆ ก็หาซื้อเพื่อนำไปบริจาคให้ทหารกับประชาชนที่เขาพระวิหาร ทุกคนอยากจะแสดงความรักชาติ พวกเขาก็เลยหาซื้อยี่ห้อของเขมร” อย่างไรก็ตาม นางฮง (Hong) แม่ค้าวัย 30 ปี เจ้าของร้านค้าใกล้ๆ ตลาดโอลิมปิก กล่าวอย่างสงสัยว่า ชาวเขมรด้วยกันเองจะต่อต้านบะหมี่ของไทยได้นานแค่ไหน เพราะว่าคนที่รับประทานบะหมี่ไทยแล้วก็จะไม่หันไปกินบะหมี่จีนหรือบะหมี่เวียดนามอย่างแน่นอน “ถึงแม้รัฐบาลจะร่วมต่อต้านอย่างเป็นทางการ ผู้บริโภคก็จะยังถามหาสินค้าไทยต่อไป และแม่ค้าก็คงจะหามาขายให้จนได้เช่นเดียวกัน” นางฮง กล่าว
จากPostในเว็บวันพฤหัสบดี ที่ 24 กรกฎาคม 2551
http://www.oknation.net/blog/uthai/2008/07/24/entry-3
วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552
คนจะเชื่อในสิ่งที่เขาอยากเชื่อ
เรื่องเล็กๆของคนอื่นปะ!!
บังเอิญเมื่อวานไม่มีสิ่งที่สามารถเก็บภาพได้ในเวลานั้น ขอใช้ภาพคนนั่งรอรถเมย์แก้ขัดและกัน
วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yyswim&month=16-04-2009&group=3&gblog=233
วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552
ประหลาดใจของฉัน
วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2552
รองเท้าหลุด
วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ไม่มีหมายเลขน้อยกว่าเท่ากับ 0
วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
Pizza Hut เปลี่ยนชื่อเป็น Pasta Hut
สุดคุ้ม
วันนี้ฉันโทรสั่งPiZZaHut (1150)เป็นอาหารมื้อดึก เพราะจากรูปถ่ายในโฆษณาที่ปรากฎลงใน hand bill เป็นPiZZa หน้าใหม่ กุ้งตัวโต บน PiZZa เต็มๆ ว้าว....ววว น่าทานมากๆ บวกกับคำโปรยในโฆษณา "กุ้ง แอนด์ แก๊ง บาร์บีคิว พิซซ่า เต็มๆกับกุ้งเนื้อแน่น ไส้กรอกหมูรมควันเต็มชิ้น เข้มรสบาร์บีคิวซอส" ที่ทำให้รู้สึกถึงหน้าบนPiZZa อย่างเนื่องแน่น เมื่อเวลาส่งมาถึงบ้าน พอเปิดกล่องใส่PiZZaปรากฎว่าหน้าบนPiZZa ชั่งประหยัดอะไรเช่นนี้ พบกุ้งตัวเล็ก ไส้กรอกชิ้นน้อย ราคาสุดคุ้มจริงๆ 259 บาท
วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
การมอง
วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ละครเวทีแม่นาค Musical
เพื่อนๆละครเวทีของ dreambox เรื่องแม่นาค Musical ไม่ใช่ของบอยนะค่ะ แม้ตนเองจะไม่เคยดูของละครเวทีของบอยมาก่อน แต่ก็นับว่าละครเวทีแม่นาค Musical สร้างความประทับใจได้ไม่น้อย ฉากที่ประทับใจมากที่สุดสำหรับตนเอง คือ ฉากสายหยุดก่อนสิ้นใจ แม้ว่าตนเองจะได้มีโอกาสอ่านเนื้อเรื่องมาก่อนแล้วแต่ก็ให้ความรู้สึกแตกต่างโดยสื้นเชิงไม่ว่าจะเป็น เพลง บรรยากาศ และอารมณ์ที่ถ่ายทอดจากการแสดง ที่ช่วยเพิ่มสัมผัสในการชมมากขึ้น
ตนเองได้มีโอกาสชมละครเรื่องนี้ 2 รอบ กลับมีความรู้สึกแตกต่างกัน ในครั้งสองที่ได้ชมรู้สึกดูแล้วประทับใจมากกว่า อาจเป็นเพราะ ลำดับที่นั่งด้วยจากครั้งแรกได้นั่งแถว E แต่ครั้ง 2 ได้นั่งแถว B เกือบชิดขอบเวทีเลยทำให้ได้เห็นรายละเอียดในการแสดงมากขึ้น บวกกับมีการเปลี่ยนแปลง Dialog ในการแสดงให้กระชับขึ้น เลยทำให้รู้สึกไม่เยิ่นเย้อจนเกินไปเมื่อเทียบกับการดูในครั้งแรก
วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
การถ่ายทอด
ในฐานะนักออกแบบ สิ่งที่เราต้องเรียนรู้สำหรับนักออกแบบ(ทุกแขนง)ก็คือการสร้างศักยภาพของตนเองสำหรับการเป็นทั้งสิ่ง/ผู้ถ่ายทอด และสิ่ง/ผู้รับข้อมูล โดยการพยายามนำตนเองเข้าไปอยู่ในสภาวการณ์ที่ทำให้เราสามารถเพิ่มพูนศักยภาพ(ในเรื่องที่เราสนใจ/ต้องการ)ให้มากที่สุด และปรับ ประยุกต์ใช้สิ่งที่เราได้เก็บเกี่ยวมาใช้ในการออกแบบ(ทุกแขนง)ในปัจจุบัน
วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ท่าที
วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
หนังสือภาษาอังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
มิตรภาพ
วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ความเชื่อ
ประเภทหนัง : Comedy, Drama, Kids/Family and Science Fiction/Fantasy
หนังนำแสดงโดย Dustin Hoffman, Natalie Portman และ Jason Bateman
ความเชื่อในสิ่งที่ตนเองวาดฝัน ฟังเสียงภายในจิตใจของตนเองว่ามีความเชื่อในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่หรือไม่ และคอยย้ำเตือนความเชื่อนั้นสำหรับความคาดฝันของคุณ ด้วยแรงบันดาลที่คุณมี คุณก็สามารถเป็นอะไรๆ ที่คุณเชื่อว่าคุณเป็นได้(แรงบันดาลใจการเขียนบทความจากภาพยนตร์เรื่องมหัศจรรย์ร้านของเล่นพิลึกโลก)
วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ความชอบต่างกัน
การหนีปัญหาไม่ดีจริงๆหรือ?
โดยส่วนตัวแล้วตนเองยังไม่รู้ว่า การหนีปัญหานั้นให้ผลดีหรือผลร้ายมากกว่ากัน
วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
การใช้ประโยชน์จากสิ่งรอบๆกาย
วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ก้าวกล้า
วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ความรู้สึกของต้นไม้
"Bike Tree" Keeps Bikes Off Ground, Away From Sticky Fingers
หมายเหตุ: ต้นไม้ หมายถึง สิ่งที่คุณคิดว่าสำคัญในตอนนี้
ความจริงแล้วนั้น
ไอศครีม
(ไม่ใช่ไอศครีม เนื้อสัตว์บนไม้ไอศครีม)
ความจริงแล้วสัจธรรมของสิ่งที่พบเจอนั้นล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นและดับลงตามกาลเวลา ขึ้นอยู่กับว่าใครจะหยิบสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาเหล่านั้น มาปรุงแต่งและทำให้มันน่าสนใจเพื่อสนองต่อกิเลสของตนเอง และถ้าเปรียบสิ่งๆนี้กับการออกแบบนิเทศศิลป์ ซึ่งนักปรุงแต่งอย่างพวกเราต้องหาวิถีปรุงแต่งให้แนบเนียนกับสัจธรรม แต่อย่าลืมว่ามันแค่เหมือนสัจธรรมไม่ใช่สัจธรรม
(ความคิดเห็นจากการเรียนในclass)
วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
การจัดการ
วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552
สนุกแบบเกรงๆ
วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552
Motivation
วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552
การทำงาน
วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ไม่รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะหายไป
วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552
เตรียมทีสิตไป 3 อันเลย
วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552
อะไรที่ผ่านมาสำหรับเรามันต้องไม่ผ่านไป
วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2552
การเต้นให้เป็นจังหวะ
วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552
สัตว์เดรัจฉาน/สัตว์ประเสริฐ
สัตว์เดรัจฉาน เป็นหนึ่งในสองภพภูมิที่พระพุทธองค์ทรงกล่าว จำแนกไว้ ที่เราสามารถพิสูจน์ได้เดี่ยวนี้ ปัจจุบันขณะนี้ ว่ามีจริง (หนึ่งคือภูมิมนุษย์หรือมนุสสภูมิ สองก็คือภูมิเดรัจฉานนี่เอง) สัตว์เดรัจฉาน ใกล้มนุษย์เข้ามาอีก มีชีวิตความเป็นอยู่ไปตาม สัญชาตญาณ มีทุกข์สุขแตกต่างกันไปตามแต่แรงบุญและกรรม ที่กระทำมาและกำลังส่งผลในภพชาติที่มาเกิดเป็นเดรัจฉานนี้
http://th.wikipedia.org/wiki/สัตว์เดรัจฉาน
มนุษย์เป็นสัตว์พิเศษ ซึ่งแตกต่างจากสัตว์ทั้งหลายอื่น สิ่งที่ทำให้มนุษย์เป็นสัตว์พิเศษ ได้แก่ สิกขา หรือการศึกษา คือการเรียนรู้ฝึกฝนพัฒนา มนุษย์ที่ฝึก ศึกษา หรือพัฒนาแล้ว ชื่อว่าเป็น "สัตว์ประเสริฐ" เป็นผู้รู้จักดำเนินชีวิตที่ดีงามด้วยตนเอง และช่วยให้สังคมดำรงอยู่ในสันติสุขโดยสวัสดี
http://gotoknow.org/blog/gobetter/83599
สำหรับความเห็นของฉันคำ 2 คำนี้ ไม่แตกต่างกัน มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐเป็นผู้รู้ผิดชอบชั่วดี รู้จักดำเนินชีวิตที่ดีงามด้วยตนเอง จริงหรือ? แล้วทำไมทุกวันนี้จึงมีข่าวหรือเหตุการณ์ฆาตรกรรม โจรกรรม เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สัตว์เลี้ยงที่ช่วยเหลือเจ้าของจากอุบัติเหตุการจมน้ำ ทั้งๆที่ขาช่วงด้านหลังของมันพิการ แต่ก็สามารถช่วยเหลือเจ้าของของมันได้
(เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากคนใกล้ตัว) นี้หรือสัตว์ที่ไม่รู้จักการดำเนินชีวิตที่ดีงาม
อะไรเป็นสิ่งตัดสิน และแบ่งแยก คำ 2 คำนี้ หรือมันเป็นเพียงสิ่งที่อนุมานขึ้นเพื่อทำให้มนุษย์ดูเหมือนอยู่เหนือสัตว์ชนิดอื่นๆ ทั้งปวง
วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552
โทรมมากๆ
วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552
คิดทีสิต
วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ทำไมต้องหมูกระทะ
สรุปคือ อาหารหลัก+ผ่านกระทะ+เข้าปาก = หมูกระทะ/เนื้อกระทะ
วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ฝนตกหนักมากๆ
สรุป การทำอะไรสิ่งๆหนึ่งไม่จำเป็นต้องรอเวลาและโอกาสวิ่งเข้ามาหาเรา แต่เราสามารถเอาตัวเราเองวิ่งเข้าไปหาโอกาสได้
วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552
หมาแก้มป่อง
วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ร้องคาราโอเกะ
วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552
คุยกับตัวเอง
วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552
สิ่งที่ยาก และไม่ถนัด
เมื่อวานฉันได้ตรวจงาน thesis กับอาจารย์นกและทำให้ฉันนึกถึงคำที่อาจารย์แนะนำ ว่าเวลาในการเลือกหัวข้อในการทำงาน เราไม่ควรเลือกทำในสิ่งที่ยากและไม่ถนัด ไม่งั้นทุกวันของคุณจะเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย และไม่มีความสุขกับการทำงาน จากประโยคนั้นทำให้ฉันหวนคิดถึงว่าไม่มีงานอะไรเลยบนโลกนี้ที่มันยาก และไม่ถนัด ถ้าหากเราได้ศึกษา และเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ แต่ในที่นี้ต้องบวกกับเวลาที่เรามี และในสิ่งที่อาจารย์นกบอกนั้นอาจหมายถึงช่วงเวลาอันสั้นนี้เรามีเครื่องมืออะไรที่เราศึกษามาเป็นอย่างดีแล้ว และพร้อมที่จะใช้มันอย่างไม่ติดขัดนั้นเอง
วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552
เวลา+ความสำคัญ
บังเอิญและตั้งใจไม่ครบ
วันนี้ฉันsearchรูปไปเจอโดยบังเอิญ และเมื่อฉันได้เห็นภาพภาพนี้แล้วทำให้นึกถึงประสบการณ์ต่างๆ ทั้งที่เจอกับตนเองและคนรู้จัก
อะไรที่มันมาไม่ครบโดยบังเอิญหรือตั้งใจอย่างใดอย่างหนึ่ง มีความน่าสนใจอยู่หลายอย่าง และอาจทำให้เราพึงพอใจได้หรือไม่ก็ทำให้ใครหลายๆคนอารมณ์เสียไปกับมันได้ หรือไม่ก็ไม่เกิดความรู้สึกทั้งพึงพอใจ และไม่พึงพอใจ(เฉยๆ)
ยกตัวอย่างประสบการณ์จะได้เห็นชัดๆ ดังต่อไปนี้
ตั้งใจพึงพอใจ+สมบูรณ์
แม่ของฉันซื้อชั้นวางของมา ปรากฏว่ามันสูงเกินจำเป็น แม่ฉันเลยทำการเลื้อยขาชั้นออก และในที่สุดก็เหมาะสมกับความต้องการ ดังนั้นแม้เราจะได้ของเกินจำเป็น และเราสามารถทำให้มันไม่ครบ แต่สมบูรณ์ไปด้วยการใช้งาน(function) ก็ได้รับความพึงพอใจ
บังเอิญไม่พึงพอใจ+ไม่สมบูรณ์
การสั่งซื้อของทางโทรศัพท์จากโฆษณาทางทีวี เมื่อคุณได้รับของและเปิดดูข้างใน ปรากฎว่าของบางอย่างไม่ครบตามจำนวนที่แจ้งไว้ และทำให้ต้องเสียเวลาการรอรับสินค้าตัวนั้นใหม่อีกครั้ง หรือไม่ในวันต่อมา หรือบางกรณีก็ไม่สามารถได้ของครบคืนเลย (ประสบการณ์จากเพื่อน) เสียทั้งเวลา เงิน และประโยชน์ต่างๆที่พึงจะได้รับ
บังเอิญไม่เกิดทั้งความพึงพอใจ และไม่พึงพอใจ
ฉันได้สั่งพิซซ่ามาทานที่บ้าน ปรากฎว่าทางร้านลืมใส่ถุงซอสมาให้ พี่สาวฉันโมโหและต่อว่าทางร้าน แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะฉันรู้สึกว่ามันไม่ทำให้ถึงกลับเสียรสชาติ และกลับทำให้เราสัมผัสกับรสชาติที่แท้จริงโดยไม่ต้องปรุงแต่งเพิ่มเติมจึงไม่รู้สึกว่ามันไม่สมบูรณ์
หมายเหตุ:
คำว่า"ความพึงพอใจ" หมายถึง การเห็นชอบกับความสมบูรณ์
คำว่า"ความสมบูรณ์" หมายถึง หน้าที่การใช้งาน(function)ที่ครบครัน และไม่ขาดตกบกพร่อง
ความกล้า
วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ลบออก.....กลับเพิ่มขึ้น
สรุปผลคือ การลบออก หมายถึง การรื้อกระเป๋า และ การเพิ่ม หมายถึง การพบเห็นคุณค่าของขยะในกระเป๋า มันทำให้ฉันหวนคิดถึงสิ่งของแต่ละชิ้นที่ฉันเคยทิ้งไม่เพียงแต่ขยะในกระเป๋าตนเองเท่านั้น แต่หมายถึงสิ่งต่างๆรอบๆตัวที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญ และมองข้ามมันไป
นั่นทำให้ฉันได้นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง “รีไซเคิล ผีอยากกลับมาเกิด”หนังระทึกขวัญสยองขวัญฟอร์มยักษ์ในนาม แม็ทชิ่ง โมชั่น พิคเจอร์ส ที่ลงขันร่วมกับทาง ยูนิเวอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จากฮ่องกง


จากเนื้อเรื่องได้กล่าวถึง โลก 2 โลก คือโลกปัจจุบัน โลกที่ทุกคนต่างสันสร้างสิ่งต่างๆ และสิ่งของนั้นๆ เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการและยอมรับ กับอีกโลกหนึ่งคือโลกที่มีสิ่งที่ถูกเราทิ้งและไม่ต้องการจากโลกปัจจุบัน ยิ่งเราลบ หรือทอดทิ้งอะไรในโลกปัจจุบัน มันก็กลับปรากฎเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง และเมื่อ2โลกมาบรรจบกันและเราได้เห็นในสิ่งที่เราต้องการ กับสิ่งที่เราลบออกหรือไม่ต้องการ และเหตุการณ์ต่างๆก็ได้เกิดขึ้น แม้สุดท้ายของเรื่องออกจะเกินจริงไปเสียหน่อยแต่ก็นับมันให้ข้อคิดอะไรดีๆเหมือนกัน
ดังนั้น เราจึงควรคิดพิจารณาว่าสิ่งที่เราต้องการทิ้งในเซียววินาทีแรกนั้น เราต้องการทิ้งมันจริงๆเหรอ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยสำหรับตัวเรา และ/หรือตัวคนอื่นจริงรึป่าว
สรุปผลคือ การลบออก หมายถึง บทนิยายที่เขาตัดออก และสิ่งสำคัญในชีวิตที่เขาทอดทิ้ง การเพิ่ม หมายถึง การพบเห็นคุณค่าของสิ่งที่เขาทอดทิ้ง และทำให้เขาอยากหวนเวลากลับไปเพื่อแก้ไขสิ่งที่เขาทอดทิ้ง หรือไม่เห็นความสำคัญ