วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552
สนุกแบบเกรงๆ
วันนี้ก่อนออกจากบ้านรู้สึกตัวเองไม่พร้อมอะไรสักอย่าง พอมาถึงห้องเรียน experimental typo เราก็ได้นั่งทำงาน ก็รู้สึกสนุกคะ แต่ก็ยังเกรงๆว่าวันพฤหัสที่จะมาถึงอันใกล้นี้จะเป็นอย่างไร
วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552
Motivation
สำหรับการทำงาน เราทุกคนมี motivate ต่างกันอยู่ที่ประสบการณ์ที่สั่งสม สภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ บวกกับเจตนารมณ์ของตัวบุคคลผู้นั้นที่มีเป้าหมายของชีวิตที่แตกต่างกันไป
วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552
การทำงาน
ความรู้สึกของการทำงานที่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของฉันในตอนนี้ การทำงานที่ต้องท้าทายกับแปลกใหม่และต้องไม่ซ้ำใคร ไม่มีใครเหมือนเป็นเรื่องสำคัญมากๆสำหรับฉันตั้งแต่เริ่มเรียนในสาขาวิชานี้ แต่การที่จะทำอะไรไม่ซ้ำใครได้ก็ต้องรู้มาก่อนว่าใครเขาทำอะไรมาบ้างแล้ว ซึ่งฉันไม่สามารถรู้ได้ทั้งหมดของคนบนโลกนี้ทุกมุมโลก แต่ฉันฉันจะพยายามต่อไป
วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ไม่รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะหายไป
หลายหลายอย่างในชีวิตที่เคยจดจำได้เริ่มหายไป ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่ดีกับสิ่งต่างๆรอบกาย และในจิตใจ อาจเป็นเพราะไม่อยากจดจำ หรือสิ่งรอบข้างที่เคยสนใจของฉันกลับเปลี่ยนไปก็เป็นได้ เหมือนกับว่าเวลาเราทานก๋วยเตี๋ยวทุกวันแล้วรู้สึกว่าอยากลองเปลี่ยนไปทานข้าวผัดพริกไทยดำ แต่เพียงไม่รู้ว่าการเปลี่ยนในครั้งนี้จะส่งผลอย่างไร ขอปรับเปลี่ยนตนเองให้เข้าที่นิดหน่อย ข้าวผัดพริกไทยยังต้องใส่พริกไทยดำเสียก่อน เพราะขั้นเริ่มต้นของเรายังไม่perfect
วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552
เตรียมทีสิตไป 3 อันเลย
น้ำหนักของงานนับว่าเกือบจะเท่ากันเลยเสียทีเดียวทั้งหมด ถ้าเราผ่านทั้ง 3 อัน ท่าทางคงมีอะไรอะไรสนุกในชีวิตที่อยากทำอีกมากมาย เพราะงานทั้งหมดนี้โดนรับรองจากอาจารย์เรียบร้อยแล้วแค่อยากทำอันไหนมากสุดก็เท่านั้น
วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552
อะไรที่ผ่านมาสำหรับเรามันต้องไม่ผ่านไป
อะไรอะไรมันผ่านเข้ามาในชีวิต และเราชอบละเลยสิ่งที่เราได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็น แต่เราพยายามจะไม่ละเลยมันไป เมื่อหลายปีที่ผ่านมารู้สึกสิ่งที่ผ่านเข้ามา และประสาทสัมผัสเราจับได้ไวมากๆ แต่เดี๋ยวนี้มันเจือจางลง เพราะความไม่เอาใจใส่มัน ละเลยมัน เราจะพยายามอีกครั้งให้อะไรที่ผ่านมาสำหรับเรามันต้องไม่ผ่านไป
วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2552
การเต้นให้เป็นจังหวะ
การฝึกเต้นให้ตรงจังหวะ ให้เป็นไปในท่าทางต่างๆตามความสวยงามของสรีระร่างกายที่เราจัดวาง มันง่ายกว่าการสอนคนๆหนึ่งที่เต้นไม่เป็นหรือประสบการณ์เต้นน้อยให้เต้นเป็น เหมือนการคิดงานออกแบบ เมื่อคน2คนที่มีทักษะด้านการออกแบบต่างกัน บวกกับประสบการณ์อื่นๆร่วมที่มี เมื่อได้รับโจทย์เดียวกัน concetp คล้ายกัน แต่ท้ายที่สุดแล้วผลงานที่ออกมาก็มีความแตกต่างตามประสบการณ์การออกแบบที่มีมากน้อยของบุคคลผู้นั้น
วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552
สัตว์เดรัจฉาน/สัตว์ประเสริฐ
ก่อนที่จะเข้าเรื่องขอกล่าวความหมายของศัพท์คำนี้เสียก่อน คำว่า"สัตว์เดรัจฉาน" เป็นสัตว์ที่ต้องอยู่ในอบายภูมิเดียวกันกับมนุษย์ตามหลักพระพุทธศาสนา ซึ่งตามหลักพุทธศาสนานั้นถือว่า สัตว์เดรัจฉานเกิดจากที่ผู้นั้นได้ทำกรรมเอาไว้ในวัฏสงสารตั้งแต่ชั้นพรหมลงมา
สัตว์เดรัจฉาน เป็นหนึ่งในสองภพภูมิที่พระพุทธองค์ทรงกล่าว จำแนกไว้ ที่เราสามารถพิสูจน์ได้เดี่ยวนี้ ปัจจุบันขณะนี้ ว่ามีจริง (หนึ่งคือภูมิมนุษย์หรือมนุสสภูมิ สองก็คือภูมิเดรัจฉานนี่เอง) สัตว์เดรัจฉาน ใกล้มนุษย์เข้ามาอีก มีชีวิตความเป็นอยู่ไปตาม สัญชาตญาณ มีทุกข์สุขแตกต่างกันไปตามแต่แรงบุญและกรรม ที่กระทำมาและกำลังส่งผลในภพชาติที่มาเกิดเป็นเดรัจฉานนี้
http://th.wikipedia.org/wiki/สัตว์เดรัจฉาน
มนุษย์เป็นสัตว์พิเศษ ซึ่งแตกต่างจากสัตว์ทั้งหลายอื่น สิ่งที่ทำให้มนุษย์เป็นสัตว์พิเศษ ได้แก่ สิกขา หรือการศึกษา คือการเรียนรู้ฝึกฝนพัฒนา มนุษย์ที่ฝึก ศึกษา หรือพัฒนาแล้ว ชื่อว่าเป็น "สัตว์ประเสริฐ" เป็นผู้รู้จักดำเนินชีวิตที่ดีงามด้วยตนเอง และช่วยให้สังคมดำรงอยู่ในสันติสุขโดยสวัสดี
http://gotoknow.org/blog/gobetter/83599
สำหรับความเห็นของฉันคำ 2 คำนี้ ไม่แตกต่างกัน มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐเป็นผู้รู้ผิดชอบชั่วดี รู้จักดำเนินชีวิตที่ดีงามด้วยตนเอง จริงหรือ? แล้วทำไมทุกวันนี้จึงมีข่าวหรือเหตุการณ์ฆาตรกรรม โจรกรรม เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สัตว์เลี้ยงที่ช่วยเหลือเจ้าของจากอุบัติเหตุการจมน้ำ ทั้งๆที่ขาช่วงด้านหลังของมันพิการ แต่ก็สามารถช่วยเหลือเจ้าของของมันได้
(เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากคนใกล้ตัว) นี้หรือสัตว์ที่ไม่รู้จักการดำเนินชีวิตที่ดีงาม
อะไรเป็นสิ่งตัดสิน และแบ่งแยก คำ 2 คำนี้ หรือมันเป็นเพียงสิ่งที่อนุมานขึ้นเพื่อทำให้มนุษย์ดูเหมือนอยู่เหนือสัตว์ชนิดอื่นๆ ทั้งปวง
สัตว์เดรัจฉาน เป็นหนึ่งในสองภพภูมิที่พระพุทธองค์ทรงกล่าว จำแนกไว้ ที่เราสามารถพิสูจน์ได้เดี่ยวนี้ ปัจจุบันขณะนี้ ว่ามีจริง (หนึ่งคือภูมิมนุษย์หรือมนุสสภูมิ สองก็คือภูมิเดรัจฉานนี่เอง) สัตว์เดรัจฉาน ใกล้มนุษย์เข้ามาอีก มีชีวิตความเป็นอยู่ไปตาม สัญชาตญาณ มีทุกข์สุขแตกต่างกันไปตามแต่แรงบุญและกรรม ที่กระทำมาและกำลังส่งผลในภพชาติที่มาเกิดเป็นเดรัจฉานนี้
http://th.wikipedia.org/wiki/สัตว์เดรัจฉาน
มนุษย์เป็นสัตว์พิเศษ ซึ่งแตกต่างจากสัตว์ทั้งหลายอื่น สิ่งที่ทำให้มนุษย์เป็นสัตว์พิเศษ ได้แก่ สิกขา หรือการศึกษา คือการเรียนรู้ฝึกฝนพัฒนา มนุษย์ที่ฝึก ศึกษา หรือพัฒนาแล้ว ชื่อว่าเป็น "สัตว์ประเสริฐ" เป็นผู้รู้จักดำเนินชีวิตที่ดีงามด้วยตนเอง และช่วยให้สังคมดำรงอยู่ในสันติสุขโดยสวัสดี
http://gotoknow.org/blog/gobetter/83599
สำหรับความเห็นของฉันคำ 2 คำนี้ ไม่แตกต่างกัน มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐเป็นผู้รู้ผิดชอบชั่วดี รู้จักดำเนินชีวิตที่ดีงามด้วยตนเอง จริงหรือ? แล้วทำไมทุกวันนี้จึงมีข่าวหรือเหตุการณ์ฆาตรกรรม โจรกรรม เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สัตว์เลี้ยงที่ช่วยเหลือเจ้าของจากอุบัติเหตุการจมน้ำ ทั้งๆที่ขาช่วงด้านหลังของมันพิการ แต่ก็สามารถช่วยเหลือเจ้าของของมันได้
(เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากคนใกล้ตัว) นี้หรือสัตว์ที่ไม่รู้จักการดำเนินชีวิตที่ดีงาม
อะไรเป็นสิ่งตัดสิน และแบ่งแยก คำ 2 คำนี้ หรือมันเป็นเพียงสิ่งที่อนุมานขึ้นเพื่อทำให้มนุษย์ดูเหมือนอยู่เหนือสัตว์ชนิดอื่นๆ ทั้งปวง
วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552
โทรมมากๆ
วันนี้หลังจากเลิกเรียนก่อนเข้าบ้าน ก็ไปสระผมที่ร้านทำผมเพื่อผ่อนคลายให้คนเกาผมสบายๆ พร้อมกับนวดศีรษะไปด้วย แต่พอสระผมเสร็จ ตอนมานั่งที่โต๊ะกระจกเพื่อเป่าผมให้แห้ง รู้สึกตกใจกับตัวเองมากเมื่อมองเข้าไปในกระจก และพบว่าเราไม่เคยดูแลตนเองเลย ดูซีด โทรม และไร้ซึ่งความสดใส
วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552
คิดทีสิต
ตนเองรู้ว่าอะไรอะไรก็สามารถเป็นทีสิตได้ถ้าเลือกและทำมัน แต่บางทีการเลือกแล้วแต่เรายังไม่รู้ผลสุดท้ายของมันเป็นยังไง จะออกมาในรูปแบบที่เราคิดไหม ยิ่งโตขึ้น ยิ่งตอบคำถามกับตนเองยากมากขึ้น ผนวกกับมันเป็นโปรเจกที่ยาวมากๆตัวหนึ่ง ซึ่งเราคาดหวังกับมันมากๆ จนเกิดอาการเกร็งไปหมดว่าทำแบบนี้จะโอเค จะตอบโจทย์ของเขามากน้อยเท่าไหร่ เกร็ง เกร็ง....ไปหมด
วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ทำไมต้องหมูกระทะ
วันนี้ไปกินหมูกระทะเลี้ยงวันเกิดกัน เลยเกิดคำถามเกี่ยวกับคำว่า"หมูกระทะ/เนื้อกระทะ" ทำไมต้องใช้คำนี้ จากประสบการณ์การกินหมูกระทะ เช่น หมูกระทะแฟมิลี่ โคขุน และอื่นๆ เป็นต้น พบว่าลักษณะการประกอบอาหารต้องมาจากอาหารที่ต้องทำให้สุก/กึ่งสุกกึ่งดิบ/ดิบ(แล้วแต่พฤติกรรมการกินอาหารของแต่ละบุคคล) ตามร้านเหล่านี้อาหารก็ไม่ได้มีแต่หมู/โคเนื้อเพียงอย่างเดียวในร้าน ยังมีผัก และเนื้อของสัตว์ชนิดอื่นๆให้สามารถสั่งทานได้ บางทีบางคนก็ไม่ได้เจาะจงว่าจะมาทานหมู/โคด้วยซ้ำ อาศัยที่ชอบทานแบบปิ้ง+บรรยากาศแบบเป็นกันเอง มานั่งกิน+สังสรรค์ อะไรแบบนั้น ส่วนคำว่า"กระทะ"ก็หาใช่กระทะที่เราเห็นตามห้องครัวในบ้านทั่วไป(บ้านของตัวเองมีนะ)แต่ก็จัดว่าอยู่ในประเภทกระทะไม่ว่าจะเป็นกระทะทองเหลืองในร้าน Bar-B-Q หรือ กระทะอะลูมิเนียมตามร้านหมูกระทะทั่วๆไป หรือกระทะเหล็ก ในร้านโคขุน
ตามความเข้าใจของฉัน+ประสบการณ์คำว่าหมูกระทะ/เนื้อกระทะ มาจากร้านอาหารที่ขายเนื้อหมู/โคเนื้อเป็นหลักและสามารถเลือกสั่งอาหารแบบต้องทำให้สุก/กึ่งสุกกึ่งดิบ/ดิบ(แล้วแต่พฤติกรรมการกินอาหารของแต่ละบุคคล)โดยผ่านกระบวนการปิ้งหรือย่างด้วยตัวเอง/สั่งทางร้านทำให้ก็ได้ แล้วแต่ลักษณะการให้บริการทางร้าน แต่ที่สำคัญคือปิ้งด้วยมือเรา และอาหารต้องผ่านกระทะ(ยกเว้นว่าอยากทานดิบๆ เช่น กุ้งแช่น้ำปลา)ก่อนเข้าปาก
สรุปคือ อาหารหลัก+ผ่านกระทะ+เข้าปาก = หมูกระทะ/เนื้อกระทะ
สรุปคือ อาหารหลัก+ผ่านกระทะ+เข้าปาก = หมูกระทะ/เนื้อกระทะ
วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ฝนตกหนักมากๆ
วันนี้ในตอนเย็นฝนตกหนักฉันรอให้ฝนหยุดตก และมันก็หยุดจริง แต่อีกไม่นานก็ตกใหม่อีกหลายต่อหลายรอบ จะได้ไปซีร็อกงานไหมเนี่ยวันนี้ ฉันรอไม่ไหวก็เลยออกไปทั้งๆที่เปียกฝนนั่นแหละ และก็ได้ซีงานตามที่ใจต้องการ
สรุป การทำอะไรสิ่งๆหนึ่งไม่จำเป็นต้องรอเวลาและโอกาสวิ่งเข้ามาหาเรา แต่เราสามารถเอาตัวเราเองวิ่งเข้าไปหาโอกาสได้
สรุป การทำอะไรสิ่งๆหนึ่งไม่จำเป็นต้องรอเวลาและโอกาสวิ่งเข้ามาหาเรา แต่เราสามารถเอาตัวเราเองวิ่งเข้าไปหาโอกาสได้
วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552
หมาแก้มป่อง
วันนี้ฉันตื่นมาและพบว่าหมาที่บ้านของฉันแก้มป่องบวมข้างขวา มันไม่ได้อักเสบอย่างนี้มานานเกือบปีแล้ว ดันกลับมาเป็นซะอีก เมื่อก่อนมันป็นบ่อยมากๆ และหมอบอกว่าโดนแมลงกัด แต่แปลกมาก มันเป็นตลอดติดต่อกัน จนพักหลังๆก็ไม่พาไปหาหมอแล้ว เพราะเสียเงินเยอะจริงๆไม่ไหวแล้ว จึงต้องปล่อยให้มันป่องจนแตกเอง หน้าสงสารแต่ไม่รู้ทำไง บางครั้งมันป่อง 2 ข้างพร้อมกัน หน้าเหมือนหมู แต่หมูจมูกสีดำ แต่ขำไม่ค่อยออก คราวนี้ฉันต้องรอให้มันแก้มแตกเสียก่อนไม่อยากบอกเลยว่ามันน่ากลัวแค่ไหน
วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ร้องคาราโอเกะ
วันนี้กลับมาจากเรียนcd5 ที่มหาลัย ก็รู้สึกว่าอยากร้องคาราโอเกะมากๆๆๆๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ร้องไปตั้ง2ชม. ไม่รู้ว่าจะรบกวนเพื่อนบ้านในระแวกนั้นรึป่าว
วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552
คุยกับตัวเอง
วันนี้แปลกมากกลับมาที่บ้านและพบว่าไม่มีใครอยู่เลย (เงียบๆ อย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะเราคิดอยู่ในใจ) และวันนี้ฉันก็ไม่เปิดเพลงใดๆฟัง ซึ่งทุกครั้งก็จะเปิดฟัง และร้องเพลงตามไปด้วย แต่วันนี้ลองปิด เกิดความครุ่นคิดว่ารู้สึกแปลก และพบว่าเราไม่เคยพูดคุย หรือคิดเรื่องราวกับตัวเองนานพอดูเหมือนกัน เพราะบางทีเราก็ไม่รู้เหตุผลบางอย่างในการกระทำของตัวเองในบางเรื่อง วิธีนี้อาจช่วยค้นพบเหตุผลของการกระทำบางอย่างก็ได้
วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552
สิ่งที่ยาก และไม่ถนัด
เมื่อวานกลับถึงบ้านดึกเลยมาเขียนในวันนี้
เมื่อวานฉันได้ตรวจงาน thesis กับอาจารย์นกและทำให้ฉันนึกถึงคำที่อาจารย์แนะนำ ว่าเวลาในการเลือกหัวข้อในการทำงาน เราไม่ควรเลือกทำในสิ่งที่ยากและไม่ถนัด ไม่งั้นทุกวันของคุณจะเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย และไม่มีความสุขกับการทำงาน จากประโยคนั้นทำให้ฉันหวนคิดถึงว่าไม่มีงานอะไรเลยบนโลกนี้ที่มันยาก และไม่ถนัด ถ้าหากเราได้ศึกษา และเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ แต่ในที่นี้ต้องบวกกับเวลาที่เรามี และในสิ่งที่อาจารย์นกบอกนั้นอาจหมายถึงช่วงเวลาอันสั้นนี้เรามีเครื่องมืออะไรที่เราศึกษามาเป็นอย่างดีแล้ว และพร้อมที่จะใช้มันอย่างไม่ติดขัดนั้นเอง
เมื่อวานฉันได้ตรวจงาน thesis กับอาจารย์นกและทำให้ฉันนึกถึงคำที่อาจารย์แนะนำ ว่าเวลาในการเลือกหัวข้อในการทำงาน เราไม่ควรเลือกทำในสิ่งที่ยากและไม่ถนัด ไม่งั้นทุกวันของคุณจะเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย และไม่มีความสุขกับการทำงาน จากประโยคนั้นทำให้ฉันหวนคิดถึงว่าไม่มีงานอะไรเลยบนโลกนี้ที่มันยาก และไม่ถนัด ถ้าหากเราได้ศึกษา และเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ แต่ในที่นี้ต้องบวกกับเวลาที่เรามี และในสิ่งที่อาจารย์นกบอกนั้นอาจหมายถึงช่วงเวลาอันสั้นนี้เรามีเครื่องมืออะไรที่เราศึกษามาเป็นอย่างดีแล้ว และพร้อมที่จะใช้มันอย่างไม่ติดขัดนั้นเอง
วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552
เวลา+ความสำคัญ
การจัดแจงเวลา ถ้าเราจัดแจงเวลาให้เหมาะสมแล้วก็ใช้ว่าการทำงานหรือการดำเนินชีวิตจะราบรื่นไปเสียหมด แต่หากว่าเราสามารถแยกแยะความสำคัญของสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้และรู้ว่าเราควรทุ่มเทกับสิ่งไหนมากกว่ากัน นั้นคือความสำเร็จก้าวหนึ่งๆของชีวิต
บังเอิญและตั้งใจไม่ครบ
วันนี้ฉันsearchรูปไปเจอโดยบังเอิญ และเมื่อฉันได้เห็นภาพภาพนี้แล้วทำให้นึกถึงประสบการณ์ต่างๆ ทั้งที่เจอกับตนเองและคนรู้จัก
Salad Serving set
Designer: Konstantin Grcic, 2009
ช้อนคนสลัดด้านขวามือจะจงใจ/ตั้งใจในการดีไซด์ให้เหมือนกับช้อนด้านซ้ายมือ
ไม่ได้ได้มาด้วยความบังเอิญก็ตาม แต่มันก็มีประโยชน์ด้านการใช้งาน(function)
(ตั้งใจพึงพอใจ+สมบูรณ์)
อะไรที่มันมาไม่ครบโดยบังเอิญหรือตั้งใจอย่างใดอย่างหนึ่ง มีความน่าสนใจอยู่หลายอย่าง และอาจทำให้เราพึงพอใจได้หรือไม่ก็ทำให้ใครหลายๆคนอารมณ์เสียไปกับมันได้ หรือไม่ก็ไม่เกิดความรู้สึกทั้งพึงพอใจ และไม่พึงพอใจ(เฉยๆ)
ยกตัวอย่างประสบการณ์จะได้เห็นชัดๆ ดังต่อไปนี้
ตั้งใจพึงพอใจ+สมบูรณ์
แม่ของฉันซื้อชั้นวางของมา ปรากฏว่ามันสูงเกินจำเป็น แม่ฉันเลยทำการเลื้อยขาชั้นออก และในที่สุดก็เหมาะสมกับความต้องการ ดังนั้นแม้เราจะได้ของเกินจำเป็น และเราสามารถทำให้มันไม่ครบ แต่สมบูรณ์ไปด้วยการใช้งาน(function) ก็ได้รับความพึงพอใจ
บังเอิญไม่พึงพอใจ+ไม่สมบูรณ์
การสั่งซื้อของทางโทรศัพท์จากโฆษณาทางทีวี เมื่อคุณได้รับของและเปิดดูข้างใน ปรากฎว่าของบางอย่างไม่ครบตามจำนวนที่แจ้งไว้ และทำให้ต้องเสียเวลาการรอรับสินค้าตัวนั้นใหม่อีกครั้ง หรือไม่ในวันต่อมา หรือบางกรณีก็ไม่สามารถได้ของครบคืนเลย (ประสบการณ์จากเพื่อน) เสียทั้งเวลา เงิน และประโยชน์ต่างๆที่พึงจะได้รับ
บังเอิญไม่เกิดทั้งความพึงพอใจ และไม่พึงพอใจ
ฉันได้สั่งพิซซ่ามาทานที่บ้าน ปรากฎว่าทางร้านลืมใส่ถุงซอสมาให้ พี่สาวฉันโมโหและต่อว่าทางร้าน แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะฉันรู้สึกว่ามันไม่ทำให้ถึงกลับเสียรสชาติ และกลับทำให้เราสัมผัสกับรสชาติที่แท้จริงโดยไม่ต้องปรุงแต่งเพิ่มเติมจึงไม่รู้สึกว่ามันไม่สมบูรณ์
หมายเหตุ:
คำว่า"ความพึงพอใจ" หมายถึง การเห็นชอบกับความสมบูรณ์
คำว่า"ความสมบูรณ์" หมายถึง หน้าที่การใช้งาน(function)ที่ครบครัน และไม่ขาดตกบกพร่อง
ความกล้า
คนเรามีทางออกสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเองต่างกัน สำหรับฉันวันนี้กลับได้พบว่าการแก้ไขปัญหาแบบเดิมๆ มันมีวิธีแก้ไขแบบอื่นที่เร็วกว่า แม้ว่าต้องเสี่ยงหรือเสียเวลาไปกับมันมาก แต่ผลสุดท้ายคือเราได้พบวิธีการใหม่ๆในทางออกใหม่ๆแต่ปัญหาแบบเดิมๆ โดยการใช้ element จาก computer บางอย่าง ก็สามารถช่วยให้การทำงานของเราเร็วขึ้นมากกว่า วาดเองกับมือเพียงอย่างเดียว
วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ลบออก.....กลับเพิ่มขึ้น
วันนี้ฉันได้เปิดกระเป๋าตังค์ของฉันและพบว่ามันรกเสียเหลือเกิน ฉันลื้อของภายในกระเป๋าออกทั้งหมด และทำการจัดเสียใหม่ พบว่ามีสิ่งที่เราไม่ต้องการ นำมันออกจากกระเป๋าเพื่อทิ้ง แต่ฉันกลับพบว่าสิ่งที่เรากำลังจะทิ้งนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการจริงๆหรือ เราได้มองข้ามอะไรไปรึป่าว หรือว่าเป็นเพราะความเคยชินที่เรามองไม่เห็น หรือไม่ทันได้สังเกต สิ่งที่เราละเลยอาจเป็นสิ่งซึ่งมีค่าสำหรับตัวเราเอง หรือ/และบุคคลอื่นๆ เช่น บิล นามบัตร ตั๋วรถเมล์ ....และอื่นๆ เป็นต้น
สรุปผลคือ การลบออก หมายถึง การรื้อกระเป๋า และ การเพิ่ม หมายถึง การพบเห็นคุณค่าของขยะในกระเป๋า มันทำให้ฉันหวนคิดถึงสิ่งของแต่ละชิ้นที่ฉันเคยทิ้งไม่เพียงแต่ขยะในกระเป๋าตนเองเท่านั้น แต่หมายถึงสิ่งต่างๆรอบๆตัวที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญ และมองข้ามมันไป
นั่นทำให้ฉันได้นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง “รีไซเคิล ผีอยากกลับมาเกิด”หนังระทึกขวัญสยองขวัญฟอร์มยักษ์ในนาม แม็ทชิ่ง โมชั่น พิคเจอร์ส ที่ลงขันร่วมกับทาง ยูนิเวอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จากฮ่องกง
สรุปผลคือ การลบออก หมายถึง การรื้อกระเป๋า และ การเพิ่ม หมายถึง การพบเห็นคุณค่าของขยะในกระเป๋า มันทำให้ฉันหวนคิดถึงสิ่งของแต่ละชิ้นที่ฉันเคยทิ้งไม่เพียงแต่ขยะในกระเป๋าตนเองเท่านั้น แต่หมายถึงสิ่งต่างๆรอบๆตัวที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญ และมองข้ามมันไป
นั่นทำให้ฉันได้นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง “รีไซเคิล ผีอยากกลับมาเกิด”หนังระทึกขวัญสยองขวัญฟอร์มยักษ์ในนาม แม็ทชิ่ง โมชั่น พิคเจอร์ส ที่ลงขันร่วมกับทาง ยูนิเวอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จากฮ่องกง


จากเนื้อเรื่องได้กล่าวถึง โลก 2 โลก คือโลกปัจจุบัน โลกที่ทุกคนต่างสันสร้างสิ่งต่างๆ และสิ่งของนั้นๆ เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการและยอมรับ กับอีกโลกหนึ่งคือโลกที่มีสิ่งที่ถูกเราทิ้งและไม่ต้องการจากโลกปัจจุบัน ยิ่งเราลบ หรือทอดทิ้งอะไรในโลกปัจจุบัน มันก็กลับปรากฎเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง และเมื่อ2โลกมาบรรจบกันและเราได้เห็นในสิ่งที่เราต้องการ กับสิ่งที่เราลบออกหรือไม่ต้องการ และเหตุการณ์ต่างๆก็ได้เกิดขึ้น แม้สุดท้ายของเรื่องออกจะเกินจริงไปเสียหน่อยแต่ก็นับมันให้ข้อคิดอะไรดีๆเหมือนกัน
ดังนั้น เราจึงควรคิดพิจารณาว่าสิ่งที่เราต้องการทิ้งในเซียววินาทีแรกนั้น เราต้องการทิ้งมันจริงๆเหรอ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยสำหรับตัวเรา และ/หรือตัวคนอื่นจริงรึป่าว
สรุปผลคือ การลบออก หมายถึง บทนิยายที่เขาตัดออก และสิ่งสำคัญในชีวิตที่เขาทอดทิ้ง การเพิ่ม หมายถึง การพบเห็นคุณค่าของสิ่งที่เขาทอดทิ้ง และทำให้เขาอยากหวนเวลากลับไปเพื่อแก้ไขสิ่งที่เขาทอดทิ้ง หรือไม่เห็นความสำคัญ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)